ธนาคารทิสโก้ ยืดเวลา "คืนรถจบหนี้ เฟส 2" ช่วยลูกค้าที่ผ่อนไม่ไหวถึง 30 ธ.ค. 64

ธนาคารทิสโก้ ยืดเวลา "คืนรถจบหนี้ เฟส 2" ช่วยลูกค้าที่ผ่อนไม่ไหวถึง 30 ธ.ค. 64

ธนาคารทิสโก้ ยืดเวลา "คืนรถจบหนี้ เฟส 2" ช่วยลูกค้าที่ผ่อนไม่ไหวถึง 30 ธ.ค. 64
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธนาคารทิสโก้ ยืดเวลาโครงการ คืนรถจบหนี้เฟส 2 ช่วยลูกค้าที่ผ่อนรถไม่ไหวถึง 30 ธ.ค. 64 พร้อมเช็กเงื่อนไขที่จะได้สิทธิที่นี่

นายเดชพินันท์ สุทัศนทรวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส - ปฏิบัติการสินเชื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อความต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเช่าซื้อและลูกค้าจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ ที่ยังคงได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ธนาคารจึงตัดสินใจขยายระยะเวลาโครงการ “คืนรถจบหนี้” ระยะที่ 2 โดยเปิดให้ลูกค้ากลุ่มที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปได้ มีโอกาสในการนำรถมาคืนได้อีกครั้ง โดยที่ลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.tisco.co.th หรือติดต่อที่สาขาธนาคารทิสโก้ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธ.ค. 64

ซึ่งหลังจากโครงการ “คืนรถจบหนี้” ระยะแรกสิ้นสุดลงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังคงมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยติดต่อสอบถามและขอเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อยู่ตลอด แม้ส่วนใหญ่จะพยายามประคับประคองตัวเองและเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือจากธนาคารแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ที่ยืดเยื้อยังคงซ้ำเติมฐานะการเงินของลูกค้าให้เปราะบางลง ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึงตัดสินใจเปิดโครงการคืนรถจบหนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่ผลโดยรวมในระยะแรกมีผู้สนใจลงทะเบียนเข้ามากว่า 4,000 ราย ได้รับการอนุมัติช่วยเหลือและปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้วจำนวนไม่น้อย และยังอยู่ระหว่างดำเนินการอีกจำนวนหนึ่ง

สำหรับเงื่อนไขโครงการยังคงเดิม นั่นคือ ต้องเป็นลูกค้าเช่าซื้อ และจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของโควิด-19 ผ่อนชำระค่างวดตามสัญญามาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด และรถยนต์จะต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อยใช้งานได้

หากได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะ “ยกหนี้ให้จริง” โดยไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ไม่คิดค่าธรรมเนียม พร้อมระบุสถานะเป็นลูกค้า “ปิดบัญชี” ถือเป็นการปิดหนี้โดยสมบูรณ์โดยไม่มีภาระหนี้ผูกพันในอนาคต และหากขายรถได้มูลค่าสูงกว่าภาระหนี้คงค้าง ธนาคารก็จะคืนเงินส่วนที่เกินนี้ให้แก่ลูกค้าด้วย

ทั้งนี้ ปัญหาที่เห็นชัดเจนตอนนี้คือ รายได้ของลูกค้าหายไป การช่วยเหลือลูกค้าจึงจำเป็นต้องสอดคล้อง ตรงจุด รวดเร็วและยั่งยืน แม้สถานการณ์โควิด 19 จะเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด สิ่งสำคัญคือลูกค้าจะต้องประเมินสถานะทางการเงินของตัวเอง หากคิดว่าไม่สามารถผ่อนชำระต่อไปได้แล้วให้รีบติดต่อธนาคารและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเพื่อประโยชน์ของตัวลูกค้าเอง เพราะธนาคารตั้งใจช่วยเหลือลูกค้าจริงๆ และอยากให้ความช่วยเหลือนี้เป็นไปแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให้ลูกค้าฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน

tisco

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook