คนละครึ่งเฟส 4 VS ช้อปดีมีคืน 2565 เหมาะกับใครบ้าง
คนละครึ่งเฟส 4 กับ ช้อปดีมีคืน เหมาะกับใคร แบบไหนคุ้มกว่ากันระหว่างได้ส่วนลด 50% กับนำไปลดหย่อนภาษีได้
หลังจากที่กระทรวงการคลัง ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน โดยเฉพาะคนละครึ่งเฟส 4 และช้อปดีมีคืน 2565 ซึ่งทั้ง 2 โครงการฯ ก็มีเงื่อนไขและรายละเอียดการใช้สิทธิที่แตกต่างกันออกไปด้วย ส่วนใครจะเหมาะกับโครงการไหน ไปเช็กดูพร้อมๆ กัน
คนละครึ่งเฟส 4
-
รัฐบาลช่วยเงินสนับสนุนในการซื้อสินค้าและบริการผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ 50% หรือไม่เกินวันละ 150 บาท
-
กรอบระยะเวลาโครงการคนละครึ่งเฟส 4 คาดว่าจะเริ่มในเดือน มี.ค.-เม.ย. 65 โดยจะต้องรอกระทรวงการคลังสรุปรายละเอียดอีกครั้ง
-
การใช้สิทธิคนละครึ่งเฟส 4 คาดว่าจะคล้ายกับเฟสที่ผ่านมาๆ คือ จะต้องซื้อสินค้ากับร้านค้าที่่ร่วมโครงการคนละครึ่งเท่านั้น ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ ลอตเตอรี่
ช้อปดีมีคืน 2565
เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่าย เป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือ และค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว สามารถลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 15 ก.พ. 65
ยกเว้นสินค้าในกลุ่ม สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ ค่าน้ำมัน ก๊าซเติมยานพาหนะ ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พัก-โรงแรม ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
หากจะให้สรุปว่าทั้ง 2 โครงการฯ เหมาะกับใครมากที่สุด ก็พอจะสรุปได้ว่า คนละครึ่งเฟส 4 เน้นใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เหมาะกับคนที่ไม่ได้เสียภาษีมากนัก หรือคำนวณเงินได้สุทธิแล้วไม่ต้องเสียภาษี ส่วนช้อปดีมีคืน 2565 เหมาะกับผู้ที่มีเงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูง เพราะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในอัตราที่มากกว่า ช่วยประหยัดภาษีได้มากขึ้น เหมาะกับคนที่ใช้จ่ายสูงสุด