ประกันสังคม ม.33-ม.39 เฮ! ครม. ไฟเขียวเพิ่มเงินบำเหน็จชราภาพ
![ประกันสังคม ม.33-ม.39 เฮ! ครม. ไฟเขียวเพิ่มเงินบำเหน็จชราภาพ](http://s.isanook.com/mn/0/ud/171/856372/older.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ช่วงที่ลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนเข้ากองทุนประกันสังคม 1 ม.ค.-31 มี.ค. 64 ให้ประกันสังคมมาตรา 33 มาตรา 39 ได้รับประโยชน์ทดแทนบำเหน็จชราภาพ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ ที่ประชุม ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ (สำหรับผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม) เพื่อกำหนดอัตราการจ่ายเงินบำนาญชราภาพของผู้ประกันตน ในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 64 โดยกำหนดให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค. 2564
ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีก 0.45% ของค่าจ้าง และกำหนดให้การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 มี.ค. 2564 ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.3 ของค่าจ้าง
สำหรับการปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบกรณีชราภาพดังกล่าว เป็นดังนี้
- ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น 347 บาทต่อคนต่อสามงวด
- ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น 146 บาทต่อคนต่อสามงวด
โดยในภาพรวมผู้ประกันตนได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นรวมทั้งหมด 1,906 ล้านบาท จำแนกเป็น
- ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จำนวน 1,783 ล้านบาท
- ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 123 ล้านบาท
โดยไม่ได้ทำให้ค่าใช้จ่ายของกองทุนประกันสังคมเพิ่มขึ้น จึงไม่มีผลกระทบต่อกองทุนประกันสังคม และเพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินบำเหน็จชราภาพที่เพิ่มขึ้นไปใช้จ่ายเพื่อยังชีพในยามชรา เป็นการบรรเทาปัญหาทางการเงินของผู้ประกันตนได้บางส่วน