SHARGE จับมือเรือด่วนเจ้าพระยา ร่วมพลิกโฉมเรือสันดาปสู่ “เรือไฟฟ้า”

SHARGE จับมือเรือด่วนเจ้าพระยา ร่วมพลิกโฉมเรือสันดาปสู่ “เรือไฟฟ้า”

SHARGE จับมือเรือด่วนเจ้าพระยา ร่วมพลิกโฉมเรือสันดาปสู่ “เรือไฟฟ้า”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

360543นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ Scale Up EV Future ของบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนาหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) ด้วยการพัฒนาสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายระบบนิเวศด้านการพัฒนาสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ผลักดัน EV ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ล่าสุด บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เพื่อร่วมกันสร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมการสัญจรทางน้ำจากเรือเครื่องยนต์สันดาป เป็นเรือไฟฟ้า หรือ Electric Boat ขยายขอบเขตการให้บริการของบริษัทจากเฉพาะสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สู่การสร้างสถานีชาร์จเรือไฟฟ้า

109213

“ที่ผ่านมา เวลาพูดคำว่า EV คนมักนึกถึงแต่รถยนต์ส่วนบุคคลที่เป็นรถ EV แต่ในความเป็นจริง ประเทศไทยยังมียานพาหนะอีกจำนวนมากที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน และสามารถปรับเปลี่ยนมาเป็น EV ได้ วันนี้ เราและทางเรือด่วนเจ้าพระยา มีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะช่วยกันเปลี่ยนผ่านจากเรือสันดาปไปสู่เรือไฟฟ้า ขับเคลื่อนการเดินทางรอบแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยพลังงานสะอาด ช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะทางอากาศ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้โดยสาร ผู้พักอาศัยบริเวณริมแม่น้ำ ตลอดจนสังคมโดยรวม” นายพีระภัทร กล่าว

ทั้งนี้ SHARGE จะเข้ามาช่วยพัฒนาสถานีชาร์จเรือยนต์ไฟฟ้าให้ตามท่าเรือต่างๆ ในเส้นทางที่เรือของเรือด่วนเจ้าพระยาแล่นผ่าน เพื่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าและปริมาณเรือไฟฟ้าของเรือด่วนเจ้าพระยาที่จะทยอยเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยจะเน้นการพัฒนาสถานีชาร์จแบบกระแสตรง (DC) ที่มีหัวชาร์จความเร็วสูง 360 kW เพื่ออำนวยความสะดวกให้เรือทุกลำสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วในเวลากลางคืน และมีกำลังไฟที่เพียงพอต่อการแล่นสัญจรตลอดทั้งวัน คาดว่าจะนำร่องพัฒนาสถานีชาร์จเรือไฟฟ้าแห่งแรกที่ท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญที่มีผู้คนขึ้นลงจำนวนมาก ก่อนจะขยายสถานีชาร์จเรือไฟฟ้าตามท่าเรือสำคัญปลายทาง เพื่อให้มีหัวชาร์จความเร็วสูงอย่างน้อย 40 หัวชาร์จภายใน 5 ปี

426804

หลังจากนี้ SHARGE จะเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายความร่วมมือกับกลุ่มผู้มียานพาหนะให้บริการจำนวนมาก (Fleet Operator) เพื่อช่วยกันผลักดันระบบนิเวศ EV ในประเทศไทยให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและยั่งยืน

ด้านนางสาวณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม กรรมการบริหาร บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา กล่าวว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการเปลี่ยนผ่านการให้บริการจากเรือโดยสารแบบสันดาปภายในสู่เรือไฟฟ้า เพื่อยกระดับมาตรฐานเรือโดยสารให้มีความปลอดภัย มีความสะดวกสบาย ลดการใช้และการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติที่มุ่งให้เกิดยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle) และสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society) ที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับหลากหลายพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงาน

862352

“การเปลี่ยนผ่านจากเรือสันดาปภายในสู่เรือไฟฟ้า มีหลากหลายปัจจัยที่บริษัทให้ความสำคัญ ทั้งความปลอดภัยของพลังงานที่ใช้ ขีดความสามารถของเรือ ชั่วโมงการปฏิบัติงานต่อการชาร์จกระแสไฟฟ้า 1 ครั้ง ไปจนถึงความพร้อมของสถานีชาร์จ โดย SHARGE ถือเป็นพันธมิตรสำคัญที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน และมีศักยภาพเข้ามาช่วยทำให้สถานีชาร์จเรือไฟฟ้ามีความพร้อมและเพียงพอต่อความต้องการในอนาคตของเรือโดยสารไฟฟ้ารอบแม่น้ำเจ้าพระยา” นางสาวณัฐปรี กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะพัฒนาและออกแบบเรือไฟฟ้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 หากเรือไฟฟ้าต้นแบบมีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค บริษัทจะเดินหน้าสร้างเรือไฟฟ้าปีละ 5-6 ลำ และสร้างให้ครบ 30 ลำภายในช่วง 5-6 ปี โดยแบ่งเป็นเรือไฟฟ้า 2 ขนาด ได้แก่ ขนาดความจุผู้โดยสาร 200 คน และ 250 คน คาดว่าจะเริ่มให้บริการเรือไฟฟ้าในเส้นทางแรก คือเส้นทางท่าเรือนนทบุรี-ท่าเรือสาทร ภายในช่วงกลางปีนี้

671887

สำหรับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เป็นบริษัทในเครือกลุ่มบริษัท สุภัทรา จำกัด ซึ่งให้บริการเรือโดยสารในประเทศไทยมายาวนานกว่า 50 ปี ปัจจุบัน เรือด่วนเจ้าพระยามีเรือโดยสารให้บริการทั้งสิ้น 56 ลำ ใน 4 เส้นทางรอบแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เรือธงส้ม เส้นทางนนทบุรี-วัดราชสิงขร เรือธงเหลือง นนทบุรี-สาทร เรือธงเขียว ปากเกร็ด-สาทร และเรือด่วนปรับอากาศธงแดง นนทบุรี-สาทร

ขณะที่บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SHARGE เป็นผู้ให้บริการ EV Charging Solution แบบครบวงจรทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เพื่อรองรับ Lifestyle Charging Ecosystem เติบโตมาจากการเป็นสตาร์ทอัพ มีบริษัทขนาดใหญ่จากหลากหลายเซ็กเตอร์เข้าร่วมลงทุนเป็นผู้ถือหุ้น อาทิ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG และบริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด ปัจจุบัน SHARGE ให้บริการใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.การขายอุปกรณ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า 2.การเป็นเจ้าของสถานีชาร์จในแหล่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญ เช่น ห้างสรรพสินค้าต่างๆ 3.การให้บริการแอปพลิเคชัน SHARGE และการจัดการซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับ EV Charging

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook