ประกันสังคมเงินชราภาพ ผู้ประกันตน ม.33 ต้องส่งเงินเท่าไหร่ถึงจะมีสิทธิในเงินนี้
เช็กเงื่อนไขประกันสังคมเงินชราภาพบำเหน็จ และเงินชราภาพบำนาญ ผู้ประกันตน ม.33 ต้องส่งเงินสมทบเท่าไหร่ถึงจะมีสิทธิในเงินนี้
การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมีสิทธิที่จะเลือกรับเงินสมทบประกันสังคมชราภาพบำเหน็จ หรือเงินชราภาพบำนาญ ได้ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าผู้ประกันตนที่จะมีสิทธิในเงินส่วนนี้ได้จะต้องมีเงื่อนไขเป็นไปตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดด้วย
ผู้ประกันตนต้องทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจเลือกรับเงินบำเหน็จชราภาพ หรือเงินบำนาญชราภาพ
- เงินบำเหน็จ รับก้อนเดียว
- เงินบำนาญ รับแบบทยอยจ่ายไปตลอดชีวิต
เงินบำเหน็จชราภาพ
เงื่อนไข
- อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ลาออกจากการเป็นผู้ประกันตน
- ส่งเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน หรือ 15 ปี
รูปแบบเงินที่จะได้รับเป็นเงินก้อนเดียว
สิทธิที่จะได้รับของการจ่ายสมทบแต่ละแบบ
- กรณีจ่ายสมทบน้อยกว่า 12 เดือนจะได้รับเงินสมทบเท่าที่ผู้ประกันตนจ่ายมา และจะได้รับเงินออมชราภาพของผู้ประกันตนฝ่ายเดียว
- กรณีจ่ายสมทบตั้งแต่ 12-179 เดือน จะได้รับเงินออมชราภาพของผู้ประกันตน เงินสมทบนายจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทน
เงินบำนาญชราภาพ
เงื่อนไข
- ส่งเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป หรือมากกว่า 15 ปี
- อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ลาออกจากการเป็นผู้ประกันตน
รูปแบบเงินที่จะได้รับเป็นแบบรายเดือนตลอดชีพ
สิทธิที่จะได้รับของการจ่ายสมทบแต่ละแบบ
- กรณีจ่ายสมทบ 180 เดือน จะได้รับเงินเป็นจำนวน 20% ของค่าจ้างเฉลี่ยของ 60 เดือนสุดท้ายที่ได้ทำการจ่ายเงินประกันสังคม (คิดจากฐานค่าจ้างขั้นต่ำ 1,650 บาท สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท)
- กรณีจ่ายสมทบเกิน 180 เดือน หรือมากกว่า 15 ปี บวกเพิ่มปีละ 1.5% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ระบุ หลังจาก ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ประกันสังคม ด้วยการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ 3 ขอ (ขอเลือก ขอคืน และขอกู้) หลักการหลังจากนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฤษฎีกา โดยอาจจะให้สำนักงานประกันสังคมทำกฎหมายลูกขึ้นมาเพื่อกำหนดลักษณะการจ่าย การกู้ในรูปแบบไหน จากนั้นจะนำเรื่องเข้าสู่รัฐสภาเพื่อให้ ส.ส.พิจารณารายละเอียดก่อนจะมีประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป