ZORT รุก Social Commerce ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าปี 2565 โต 6,000 ราย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การซื้่อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของผู้บริโภคในปี 2565 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นราว 13.5% คิดเป็นมูลค่าตลาดราว 5.65 แสนล้านบาท ปัจจัยมาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (E-Commerce) มากขึ้น ประกอบกับเทรนด์การขายของผู้ค้าทั้งรายใหญ่ รวมถึงรายย่อยที่ปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งในรูปแบบ Omni-channel (Offline to Online) และ Social Commerce ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-3 ปีนี้ โดยมีมูลค่าตลาดมากถึง 62% ของตลาด E-Commerce และคาดว่าจะมีมูลค่ามากถึง 3.5 แสนล้านบาทในสิ้นปี 65 ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ค้าออนไลน์ทั้งรายใหญ่-รายย่อย ที่จะเพิ่มช่องทางการขาย และการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุดเพื่อชิงเม็ดเงินกว่าแสนล้านบาท
เมื่อผู้ค้าออนไลน์มีช่องทางการขายเพิ่มมากขึ้น การบริหารจัดการสินค้า รวมถึงสต็อกสินค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า การอัปเดตสต็อกแบบไม่ Real Time พร้อมกันทุกช่องทางการ อาจทำให้สินค้าหมด ต้องแจ้งยกเลิกออร์เดอร์ลูกค้า ทำให้เสียโอกาสการขายและความน่าเชื่อถืออีกด้วย
ZORT เป็นระบบการจัดการร้านค้า ที่มองเห็น Pain Point ของผู้ค้า โดยได้พัฒนาระบบการตัดสต็อกแบบอัตโนมัติแบบ Real Time เชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Marketplace รวมถึง Social Commerce และร้านค้าออฟไลน์ เพื่อช่วยผู้ค้าประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่ายด้วย
น.ส.รุจา พิตรชญารมย์ Head of Marketing บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) เล่าว่า Zort เป็นมากกว่าระบบจัดการสต็อกสินค้า เพราะมีการพัฒนาระบบตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยมีฟีเจอร์หลักๆ ที่จะช่วยร้านค้าจัดการออร์เดอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการออร์เดอร์ ที่รวมทุกช่องทางการขายไว้ใน Zort ที่เดียว, การอัปเดตสต็อกสินค้าอัตโนมัติแบบ Real Time, การสรุปรายงานข้อมูลของลูกค้า โดยที่เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดทำการตลาดเพื่อสร้างยอดขายได้ในอนาคต และการรายงานข้อมูลด้านบัญชีอัตโนมัติ เรียกว่าเป็นระบบหลังบ้านออนไลน์ที่ครบวงจร มีความเป็นมืออาชีพมาก ที่สำคัญยังเป็นส่วนช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าได้หลายเท่าตัวโดยที่ผู้ค้าต้นทุนเท่าเดิมอีกด้วย
สำหรับการใช้บริการ ZORT นั้น น.ส.รุจา ระบุว่า ลูกค้าสามารถเลือกแพ็คเกจการใช้งานได้โดยไม่จำกัด โดยจะมีทีมคอยช่วยวิเคราะห์ ออกแบบ และวางแผนในอนาคตให้ว่าช่องทางขาย หรือรูปแบบการขายเหมาะกับฟีเจอร์ไหนในระบบ ZORT เพื่อที่ลูกค้าจะได้จ่ายเฉพาะส่วนเท่าที่ใช้งานจริงๆ ซึ่งแพ็คเกจเริ่มต้นที่ 99 บาทต่อเดือน
ปัจจุบัน ZORT มีฐานลูกค้าที่ใช้บริการในระบบมากถึง 3,000 ราย พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในระบบเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 รายภายในปี 2565 และคาดว่าลูกค้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 50% โดยจะเน้นไปที่ Social Commerce มากขึ้น และการเพิ่มช่องทางการขาย ด้วยการ Educate ลูกค้ากลุ่มใหม่ให้รู้จักระบบของ ZORT มากขึ้น พร้อมกับให้สิทธิทดลองใช้ฟรี 15 วัน ส่วนลูกค้ากลุ่มเดิมที่ใช้ ZORT อยู่แล้วก็จะให้สิทธิประโยชน์ใช้ฟรีถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 65
ทั้งนี้ น.ส.รุจา มองถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาด E-Commerce ว่าจะเติบโตอย่างน้อย 30% ทุกปี ในขณะที่ระบบการจัดการร้านค้าก็จะโตตามไปพร้อมๆ กัน เพราะระบบการจัดการร้านค้าเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการรายเล็ก-รายย่อย ที่แม้จะไม่มีกำลังขยายธุรกิจ หรือเพิ่มจำนวนคนได้ แต่ก็สามารถสู้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ไม่แพ้กัน
"ผู้ค้าออนไลน์อาจจะมองว่า ZORT เป็นระบบที่ใหญ่และแพง เพราะดู Professional มาก แต่เราอยากจะสื่อให้ทุกคนได้รู้ว่า ระบบที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงขนาดนั้น เราสามารถเลือกระบบให้เหมาะกับความต้องการของร้านค้าเองได้ เพื่อที่จะเติบโตไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ " น.ส.รุจา กล่าว