อัปเดตประกันสังคม เงินชราภาพ 3 ขอ "ขอเลือก ขอคืน ขอกู้" กับรายละเอียดที่ควรรู้

ประกันสังคม อัปเดตเงินชราภาพ 3 ขอ "ขอเลือก-ขอคืน-ขอกู้" รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยกฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่

น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าในประเด็นการปลดล็อก พ.ร.บ.ประกันสังคม คือ ขอเลือก ขอคืน และขอกู้ โดยรายละเอียดดังนี้

ขอเลือก

ผู้ประกันตนสามารถที่จะเลือกรับบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพได้ เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ซึ่งในกฎหมายฉบับเดิมระบุว่าหากใครส่งเงินครบ 180 เดือน และมีอายุ 55 ปี เมื่อลาออกจากงานจะได้รับเงินบำนาญชราภาพ หากใครส่งเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน อายุ 55 ปี และลาออกจากงานจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ หรือเงินก้อน

ฉะนั้น หากกฎหมายฉบับใหม่ออก ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน ก็สามารถเลือกได้ว่าจะรับบำเหน็จชราภาพ หรือบำนาญชราภาพ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมมีการรับประกันการรับเงินบำนาญชราภาพ 60 เดือน คือ หากผู้ประกันตนรับบำนาญชราภาพแล้วเกิดเสียชีวิตในเดือนที่ 1 หรือเดือนที่ 2 ทายาทจะได้รับอีก 58 เดือน ซึ่งอาจจะเลือกรับทางช่องทางนี้ก็ได้ คือ เลือก 60 เดือนก่อน เมื่อถึงเดือนที่ 61 ก็มาเลือกรับบำนาญ หรือเรียกว่ารับเงินก้อนก่อน 60 เดือน เช่น ได้รับเงินบำนาญชราภาพเดือนละ 5,000 บาท x 60 เดือน = 300,000 บาท พอเดือนที่ 61 หากยังไม่ได้เสียชีวิตก็ยังมารับเงินต่อได้

ขอคืน

ผู้ประกันตนสามารถขอคืนได้ก็ต่อเมื่อเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจที่ทำให้การใช้ชีวิตของผู้ประกันตนไม่ปกติ หรือเกิดอุทกภัย วาตภัย เกิดโรคระบาด ทางสำนักงานประกันสังคมจะให้คืนบางส่วน แต่กฎหมายใหญ่ระบุว่าการขอคืน แต่ส่วนรายละเอียดของกฎหมายรองต้องเขียนสนับสนุนกฎหมายใหญ่ว่า ให้คืนอย่างไร คืนสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องส่งเงินสมทบมาแล้วกี่เดือน ซึ่งกฎหมายรองจะออกรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

การขอกู้

สำนักงานประกันสังคม ไม่มีภารกิจให้การกู้เงินกับผู้ประกันตน แต่จะทำ MOU กับธนาคาร โดยธนาคารที่จะทำ MOU กับประกันสังคมจะต้องคิดดอกเบี้ยน้อยที่สุด เพื่อให้ผู้ประกันตนไปยื่นกู้ที่ธนาคารแห่งนั้น โดยสำนักงานประกันสังคมจะออกหนังสือรับรองให้ว่าผู้ประกันตนรายนี้มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพ เรียกสั้นๆ ว่าเป็นการค้ำประกันให้เท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนยังไม่สามารถดำเนินการ 3 ขอ ขอเลือก ขอคืน ขอกู้ ได้ เพราะกฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ที่กฤษฎีกา โดยสำนักงานประกันสังคมคาดว่า หากเป็นไปตามกรอบ หรือขั้นตอนที่ประกันสังคมได้วางไว้น่าจะกลางปี 2566