ธอส. ย้ำไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยตาม กนง. แม้กระทบต้นทุนราว 1,000 ล้านบาท เพื่อพยุงภาคอสังหาฯ

ธอส. ย้ำไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยตาม กนง. แม้กระทบต้นทุนราว 1,000 ล้านบาท เพื่อพยุงภาคอสังหาฯ

ธอส. ย้ำไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยตาม กนง. แม้กระทบต้นทุนราว 1,000 ล้านบาท เพื่อพยุงภาคอสังหาฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า เชื่อว่าในปีนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% แต่ ธอส.จะพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงเดือน ต.ค. เพื่อลดผลกระทบสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ครั้งนี้ จะทำให้ ธอส.ได้รับผลกระทบเรื่องต้นทุนประมาณ 1 พันล้านบาท

debt

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น การพูดว่าไม่ขึ้น จะเป็นการฝืนตลาดในหลายส่วน ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. คงเป็นการทยอยขึ้น

นายฉัตรชัย กล่าวว่า บทบาทของ ธอส. ที่ยังต้องทำหน้าที่อยู่ตามนโยบายรัฐ คือ การดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อย แม้ว่าผลกระทบจากต้นทุนที่เกิดจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะสูงขึ้น แต่ ธอส. มองว่าธนาคารยังเป็นอีกกลไกที่สามารถเข้าไปช่วยพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ในช่วงดังกล่าว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการ และผู้บริโภคเองก็ต้องเร่งปรับตัวด้วยเช่นกัน

“หากกนง.ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ส.ค.นี้ ธอส.จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยทันที แต่จะตรึงไว้ก่อน และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ในเดือนต.ค. แต่จะไม่ขึ้นระดับเดียวกับที่ กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยประเมินว่าหาก กนง. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ธอส. อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.15% ต่อปี และจะตรึงต่อไปยาวจนถึงเดือน ม.ค.66 จึงจะมีการพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้ลูกค้าเกิดการปรับตัว โดยภาระที่เพิ่มขึ้นจากการตรึงดอกเบี้ยราว 1 พันล้านบาทนั้น อยู่ในบริบทที่ธนาคารยังรับได้” นายฉัตรชัย กล่าว

สำหรับภาพรวมการปล่อยสินเชื่อของ ธอส. ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) อยู่ที่ 1.34 แสนล้านบาท โดยภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ 2.6 – 3 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ปล่อยสินเชื่อได้ที่ 2.26 แสนล้านบาท ส่งผลให้สินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.52 ล้านล้านบาท และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ระดับ 4.41%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook