กรมธนารักษ์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้เช่าที่ราชพัสดุ เจอน้ำท่วม ยกเว้นค่าเช่าสูงสุด 2 ปี
กรมธนารักษ์ออกมาตรการช่วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยการยกเว้นการเก็บค่าเช่าสูงสุด 2 ปี
กรมธนารักษ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ให้ผู้เช่าที่ราชพัสดุทุกประเภท ได้แก่ เช่าอยู่อาศัยเช่าเพื่อประกอบการเกษตร เช่าอาคารราชพัสดุ และเช่าที่ดินเพื่อประโยชน์อย่างอื่น โดยออกมาตรการให้ความช่วยเหลือยกเว้นการเก็บค่าเช่าสูงสุด 2 ปี
นายจำเริญ โพธิยอด รองปลัดกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่เร่งสำรวจพื้นที่ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนผู้เช่าที่ราชพัสดุ เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการด่วน ในเบื้องต้นได้กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เช่าที่ราชพัสดุและได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้ ได้แก่
- กรณีผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย หากเสียหายบางส่วนให้ยกเว้นค่าเช่า เป็นเวลา 1 ปี เสียหายทั้งหลังให้ยกเว้นค่าเช่า เป็นเวลา 2 ปี โดยความเสียหายทั้งหลังพิจารณาจากสภาพอาคารที่พักอาศัยที่ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ โดยสิ้นเชิง เนื่องจากตัวบ้านได้รับความเสียหายหรือโครงสร้างของบ้านเสียหายจนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ (ไม่รวมถึงกรณีที่น้ำท่วมทั้งหลัง แต่สามารถเข้าอยู่อาศัยภายหลังน้ำลดได้)
- กรณีผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบการเกษตร หากพืชหรือผลผลิตได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าเป็นเวลา 1 ปี โดยสามารถขอข้อมูลการรับรองความเสียหายจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด เป็นต้น
- กรณีผู้เช่าอาคารราชพัสดุ และผู้เช่าที่ดินเพื่อประโยชน์อย่างอื่น ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าตามข้อเท็จจริงว่าไม่สามารถดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ในที่เช่าได้ โดยให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือน เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน
นายจำเริญ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จัดเตรียมถุงยังชีพ เพื่อมอบให้ผู้เช่าที่ราชพัสดุ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ และราษฎรข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และรายงานความช่วยเหลือที่ได้ดำเนินการให้กรมธนารักษ์รับทราบ
สำหรับผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดของท่าน เพื่อขอรับการช่วยเหลือจากกรมธนารักษ์ นายจำเริญกล่าวในตอนท้าย