พงษ์ศักดิ์สอบน้ำมันรั่วทะเลระยองรับรุนแรงสุด
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้ว ของกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รั่วที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ ห่างจากชายฝั่งทะเลมาบตาพุด ประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะกำลังมีการส่งน้ำมันมายังโรงกลั่น ว่า จากกรณีดังกล่าวได้เร่งมอบหมายให้ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าไปตรวจสอบดูแล และให้สั่งการกับ บริษัท PTTGC แทนตนเอง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริษัท PTTGC ตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยากมาก และเพื่อเป็นการป้องกันเหตุในอนาคต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 และถือว่าเป็นครั้งที่ทุนแรง มีปริมาณน้ำมันรั่วมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
คราบน้ำมันรั่วทะลักถึงอ่าวพร้าวเกาะเสม็ดแล้ว-เร่งกำจัด
นายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการเก็บกู้คราบน้ำมันดิบที่เกิดจากการรั่วไหลลงสู่ทะเลระยองของ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการบินสำรวจคราบน้ำมัน โดยพบว่า คราบน้ำมันบางส่วนที่เล็ดรอดจากการสกัด ถึงชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ดแล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเคลียร์พื้นที่ชายหาดอยู่ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว และในวันนี้ก็จะมีทีมลงไปสำรวจที่ท้องทะเลด้วย เพื่อดูว่าคราบน้ำมันดิบที่เกิดรั่วไหล มีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต รวมถึงปะการัง อย่างไรบ้าง โดยหลังจากนี้ 2 สัปดาห์ จะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น นายประทีป ระบุว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะต้องรอข้อมูลจาก จ.ระยอง รวมทั้ง กลุ่ม ปตท. ที่จะทำการสำรวจรวมรวบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางกลุ่ม ปตท. จะต้องเข้ามาดูแลและดำเนินการอย่างเต็มที่
พ่อเมืองระยองระดมกำลังกำจัดคราบน้ำมัน
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายพรเทพ บุตรนิพัทธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท พีทีทีโกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้ากำจัดน้ำมัน โดยมีทหารจากกองพันทหารราบที่ 7 จ.ระยอง และหน่วยนาวิกโยธิน สัตหีบ จ.ชลบุรี กว่า 300 นาย เพื่อเร่งกำจัดคราบน้ำมันที่ทะลักเข้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด กินพื้นที่ประมาณ 300 เมตร ในอ่าวพร้าว จนทะเลเป็นสีดำทั้งหาด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ส่งผลกระทบการท่องเที่ยวรีสอร์ท ปิดร้างไร้เงานักท่องเที่ยว
สำหรับการฉีดพ่นสารเคมีเพื่อสลายคราบตั้งแต่เมื่อวานนี้นั้น กำจัดได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้ทั้งหมด ปริมาณการย่อยสลายจึงช้ามาก ทั้งนี้ ได้ประสานไปยัง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ส่งเรือบัสเพื่อขนรถบรรทุกลากคราบน้ำมันขึ้นเรือออกไปให้เร็วที่สุด
ส่วนคราบน้ำมันที่เกาะอยู่บนหาดและผิวทราย จะมีกรรมวิธีการเก็บกู้ให้เสร็จเร็วที่สุด ส่วนผลในระยะยาว จะมี
นักวิชาการ คณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญ ประเมินหาแนวทางแก้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทางทะเล
ต่อไป
คลื่นแรงทำขจัดคราบน้ำมันอ่าวพร้าวล่าช้า
จากกรณีพบคราบน้ำมันดิบลอยอยู่บนผิวน้ำจำนวนมาก ออกมาจากท่อส่งน้ำมันดิบกลางทะเลของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ห่างฝั่งท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ประมาณ 10 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 18 กม. สาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้ว รั่วทำให้น้ำมันดิบประมาณ 50 - 70 ตัน ไหลทะลักแพร่กระจายบนผิวท้องทะเลเป็นบริเวณกว้างประมาณ 1 กม. ยาวประมาณ 2 กม. ท่ามกลางกระแสคลื่นและลมแรง กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ และส่งเรือรบเข้าอำนวยการช่วยเหลือ ในการวางบูมล้อมบริเวณคราบน้ำมัน และฉีดน้ำยาคุม เพื่อสลายคราบน้ำมัน ไม่ให้กระจายตัวเข้าสู่ชายฝั่ง ส่วนการขจัดคราบน้ำมันในทะเล ขณะนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากคลื่นลมแรงมาก บูมที่นำมาล้อมคราบน้ำมัน ไม่สามารถป้องกันคราบน้ำมันได้อย่างเต็มที่ ขณะคลื่นลมแรงมาก คราบน้ำมันจะล้นทะลักออกนอกบูม ซึ่งเป็นปัญหาต่อการจำกัดบริเวณคราบของน้ำมันให้อยู่ในวงจำกัดได้
นอกจากนี้ จากการที่คลื่นลมแรงทำให้ทิศทางการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมัน อาจจะซัดเข้าสู่ฝั่งบริเวณชายหาดบ้านเพ และชายหาดสวนสน จ.ระยอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็จะทำให้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงอีกด้วย