เตรียมจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2

เตรียมจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2

เตรียมจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า “ในวันที่ 18 - 20 พฤศจิกายน 2565 จะมีการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. โดยงานมหกรรมครั้งนี้เป็นการจัดครั้งที่ 2 หลังจากครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานครได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก”

“มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” เป็นงานที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานพันธมิตรอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 18 หน่วยงาน เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบกับปัญหาหนี้สินเป็นภาระหนัก โดยมหกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน

การจัด “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการลงทะเบียนเพื่อแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออนไลน์ผ่านระบบของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนออนไลน์จำนวนกว่า 135,000 ราย รายการสะสมมากกว่า 300,000 รายการ และระยะที่ 2 เป็นการจัดมหกรรมสัญจรทั้งในกรุงเทพมหานครและ 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดย “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4–6 พ.ย. 65 ณ Hall 5 อิมแพค เมืองทองธานี ผลการจัดงานได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 15,000 ราย ส่วนใหญ่ขอรับคำปรึกษาด้านการเงินและแนวทางในการประกอบอาชีพ รองลงมา คือ การขอแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม การขอสินเชื่อใหม่หรือสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเสริมสภาพคล่องและสร้างรายได้เพิ่ม และการเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อส่งเสริมการออม การตรวจข้อมูลเครดิต การขาย NPA เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จของการจัดงานครั้งที่ 1 กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จึงกำหนดจัดงานมหกรรมสัญจรในครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 พ.ย. 65 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น โดยจะเพิ่มเติมหน่วยงานให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหรือการพัฒนาอาชีพ และมุ่งเน้นการให้คำปรึกษาด้านการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เข้าร่วมงานจากการจัดงานครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในงานจะมีกิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วนเช่นเดิม ได้แก่

(1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขหนี้ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือการปรับเงื่อนไขการชำระนี้ เพื่อช่วยผ่อนปรนภาระหนี้ของประชาชนและผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง เช่น

  • การปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระ ลดภาระค่างวด ลดอัตราดอกเบี้ย พักชำระเงินต้น ลดการผ่อนชำระเงินต้น ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระหากสามารถจ่ายชำระหนี้ปิดบัญชีได้ โดยสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งที่เข้าร่วมมหกรรมนี้
  • การคืนดอกเบี้ยให้กับลูกค้าที่ชำระดี โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
  • มาตรการแก้หนี้สินเชื่อบ้าน สำหรับลูกหนี้สถานะ NPL จะได้รับการลดเงินงวดผ่อนชำระ พร้อมกับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ โดยในระยะแรกผ่อนชำระเพียงงวดละ 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ 0 ต่อปี โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์

(2) การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ให้เพียงพอต่อการชำระหนี้ ซึ่งจะสามารถลดปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนได้ในระยะยาว และสามารถขอรับสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเป็นแหล่งทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น

  • สินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน สำหรับผู้มีรายได้ประจำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย ให้กู้ไม่เกินรายละ 20,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำแบบคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน ปลอดชำระเงินต้น 6 เดือน ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 2 ปี โดยธนาคารออมสิน
  • สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย เช่น สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน สินเชื่อเคหะกู้ปีนี้ผ่อนปีหน้า โดยธนาคารออมสิน สินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 3.90 นาน 6 เดือน โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตรากำไรพิเศษร้อยละ 1.99 ต่อปี นาน 6 เดือน โดยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  • สินเชื่อเพื่อ SMEs ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 5.5 ต่อปี โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สินเชื่อ Krungthai SME Money ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  • สินเชื่อผู้ส่งออกป้ายแดง ใช้เพียงบุคคลค้ำประกัน โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
  • มาตรการค้ำประกันสินเชื่อ ฟรีค่าดำเนินการค้ำประกัน โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

(3) การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง และการเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน เพื่อสร้างความตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินและส่งเสริมการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าใจถึงการเป็นหนี้และมีการวางแผนทางการเงิน ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน เช่น

  • การให้คำปรึกษาทางออกให้ธุรกิจโดยโค้ชมืออาชีพ โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย การให้บริการคำปรึกษาทางการเงินผ่าน บสย. F.A. Center การให้คำปรึกษาผ่านโครงการหมอหนี้เพื่อประชาชนโดยธนาคารแห่งประเทศไทย การให้ข้อเสนอแนะในการประกอบธุรกิจโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
  • การให้ความรู้ทางการเงินโดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กองทุนการออมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
  • การรับสมัครงานและการแนะแนวอาชีพจากกรมการจัดหางาน
  • ผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการออม เช่น เงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยพิเศษแบบขั้นบันได สลากออมสินสลากออมทรัพย์ ธอส. เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจตลอดงาน เช่น การตรวจข้อมูลเครดิตโดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด การขายสินทรัพย์ NPA ของสถาบันการเงิน บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด และบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด รวมทั้งกิจกรรมเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโดยผู้ทรงคุณวุฒิตลอดงาน

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT หรือ Scan QR Code ท้ายแถลงข่าว หรือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานได้ที่หน้างานมหกรรม ทั้งนี้ นอกจากงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ครั้งนี้แล้ว ยังมีกำหนดจัดมหกรรมในลักษณะเดียวกันอีก 3 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านช่องทางเดียวกัน ได้แก่

ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่
ครั้งที่ 4 จังหวัดชลบุรี วันที่ 20 – 22 มกราคม 2566 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน
ครั้งที่ 5 จังหวัดสงขลา วันที่ 27 – 29 มกราคม 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอเชิญชวนลูกหนี้ในจังหวัดขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบปัญหาทุกท่านให้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเพื่อเข้ารับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้จากหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งมหกรรมในครั้งนี้จะช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่มีอยู่ได้อย่างตรงจุด สอดคล้องกับศักยภาพในการชำระหนี้ รวมทั้งได้รับการส่งเสริมความรู้และการสร้างวินัยทางด้านการเงิน เพื่อที่จะหลุดพ้นจากกับดักหนี้สินได้อย่างยั่งยืน และคาดหวังว่าการจัดงานในครั้งที่ 2 นี้จะได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการเช่นเดียวกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมา”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook