ธ.ก.ส. โอนเงินประกันรายได้ข้าว-เยียวยาเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท รวดเดียว เริ่ม 24 พ.ย. นี้
ธ.ก.ส. เปิดไทม์ไลน์โอนเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 65/66 และเงินเยียวยาเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ เริ่ม 24 พ.ย. นี้ เช็กเลยมีวันไหนบ้าง
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.เร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือ และยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่าย และพัฒนาศักยภาพการผลิต วงเงินรวม 81,265 ล้านบาท โดยมีจำนวนเกษตรกรที่ได้รับสิทธิราว 4.68 ล้านครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ก.ย. 66 เริ่มจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรตั้งแต่ 24 พ.ย. 65 ได้แก่
1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ตัน
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรงตามข้อมูลที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งผ่านการประชุมของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ งวดที่ 1-6 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ต.ค-18 พ.ย. 65 รวมทั้งสิ้น 1.68 ล้านครัวเรือน จำนวนเงิน 4,516.88 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้
- งวดที่ 1 เก็บเกี่ยวก่อน 15 ต.ค. 65
- งวดที่ 2 เก็บเกี่ยว 15-21 ต.ค. 65
- งวดที่ 3 เก็บเกี่ยว 22-28 ต.ค. 65
- งวดที่ 4 เก็บเกี่ยว 29 ต.ค.–4 พ.ย. 65
- งวดที่ 5 เก็บเกี่ยว 5-11 พ.ย. 65
- งวดที่ 6 เก็บเกี่ยว 12-18 พ.ย. 65
โดยทั้ง 6 งวด โอนพร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 24 พ.ย. 65
2. โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวการปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละ 1,000 บาท) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต และสร้างขวัญกำลังใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาข้าวให้มีคุณภาพดี ในการเพิ่มโอกาสในการขายข้าวในราคาที่สูงและมีรายได้มากขึ้น โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน ยอดจ่ายทั้งประเทศ รวม 4.295 ล้านครัวเรือน จำนวนเงิน 50,617.045 ล้านบาท พร้อมจ่ายเงินตามแผนการโอนเงินส่งถึงมือเกษตรกร ดังนี้
วันที่ 24 พ.ย. 2565
- โอนรวม 804,017 ครัวเรือน จำนวนเงิน 10,015.485 ล้านบาท
- พื้นที่จังหวัด : นครสวรรค์, เพชรบูรณ์, พิจิตร, พิษณุโลก, สุโขทัย, กำแพงเพชร, อุตรดิตถ์, อุทัยธานี, ตาก, เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, แม่ฮ่องสอน และจังหวัดลำพูน
วันที่ 25 พ.ย. 2565
- โอนรวม 985,871 ครัวเรือน จำนวนเงิน 10,841.001 ล้านบาท
- พื้นที่จังหวัด : ลำปาง, น่าน, แพร่, อุดรธานี, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม และจังหวัดอุบลราชธานี
วันที่ 26 พ.ย. 2565
- โอนรวม 978,459 ครัวเรือน จำนวนเงิน 11,036.883 ล้านบาท
- พื้นที่จังหวัด : ขอนแก่น, สกลนคร, นครพนม, กาฬสินธุ์, นครราชสีมา และจังหวัดยโสธร
วันที่ 27 พ.ย. 2565
- โอนรวม 980,489 ครัวเรือน จำนวนเงิน 11,369.183 ล้านบาท
- พื้นที่จังหวัด : หนองบัวลำภู, หนองคาย, มุกดาหาร, บึงกาฬ, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์ และจังหวัดชัยภูมิ
วันที่ 28 พ.ย. 2565
- โอนรวม 546,458 ครัวเรือน จำนวนเงิน 7,354.491 ล้านบาท
- พื้นที่จังหวัด : อำนาจเจริญ, ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ, สระแก้ว, กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สุพรรณบุรี, กระบี่, ชุมพร, พังงา, ภูเก็ต, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา, สตูล, ก.ท.ม. และจังหวัดเลย
ทั้ง 2 โครงการพร้อมโอนงวดแรก วันที่ 24 พ.ย. 65 โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานโอนเงินครั้งแรก ให้แก่เกษตรกร ณ บริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดเพชรบูรณ์ และเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile และ A-Mobile Plusตลอด 24 ชั่วโมงและจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ