ค่าเงินบาทวันนี้ 14/12/65 เปิดที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น

ค่าเงินบาทวันนี้ 14/12/65 เปิดที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น

ค่าเงินบาทวันนี้ 14/12/65 เปิดที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้แข็งค่าขึ้น 34.58 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดอยู่ที่ 34.50-34.70 บาท

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.80 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยรายงานเงินเฟ้อทั่วไป CPI และเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI (ซึ่งไม่รวมผลของราคาอาหารและพลังงาน) ของสหรัฐฯ ที่ชะลอลงมากกว่าคาดสู่ระดับ 7.1% และ 6.0% ตามลำดับ ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและมีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยไปได้ไม่ไกลกว่าระดับ 5.00% ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ (จาก CME FedWatch Tool) โดยมุมมองดังกล่าวได้ส่งผลให้บรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) และทำให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq กลับมาปรับตัวขึ้น +1.01% ส่วนดัชนี S&P500 ก็สามารถปิดตลาด +0.73%

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท นายพูน ระบุว่า แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเร็วในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้าน แต่ทว่า การแข็งค่าของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอผลการประชุมเฟด เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ก่อนที่จะปรับสถานะการถือครองที่ชัดเจนอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ในระหว่างวัน ก่อนที่ตลาดจะรับรู้ผลการประชุมเฟดในช่วงเช้ามืดของวันพฤหัสฯ เงินบาทก็อาจพอเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ตามบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาด รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่อาจยังคงเข้าซื้อบอนด์ไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตามการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ในฝั่งสหรัฐฯ

แนวรับสำคัญของเงินบาทอาจอยู่ในช่วง 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรการแข็งค่าต่อเนื่องของเงินบาทออกมาบ้าง และเชื่อว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่จะยังไม่รีบปรับสถานะถือครองจนกว่าจะรับรู้ผลการประชุมเฟด ซึ่งประเมินว่า หากผลการประชุมเฟด คาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด (Dot Plot) และถ้อยแถลงของประธานเฟดต่างสะท้อนความจำเป็นของการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จนอาจแตะระดับสูงสุดที่มากกว่าระดับ 5.00% ที่ตลาดคาดการณ์ล่าสุด หรือมีความ “Hawkish” มากกว่าที่ตลาดคาด ก็อาจส่งผลให้ ผู้เล่นในตลาดกลับมาอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้น ส่งผลให้อาจเห็นเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเห็น การย่อตัวของราคาทองคำ และการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้ แต่มองว่า เงินบาทจะไม่ได้อ่อนค่าไปมากจนทะลุโซนแนวต้านสำคัญที่ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างก็รอจังหวะเงินบาทอ่อนค่า เพื่อทยอยขายเงินดอลลาร์ หรือ เพิ่มสถานะ Short USDTHB (มองว่า เงินบาทจะแข็งค่าขึ้น)

ในฝั่งตลาดค่าเงิน ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดได้กดดันให้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหนัก เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 104 จุด (หลุดจากโซนแนวรับสำคัญที่ 105 จุด อีกครั้ง) นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) สามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านแถว 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,822 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ ซึ่งมองว่า การรีบาวด์ของราคาทองคำใกล้โซนแนวต้านดังกล่าว อาจทำให้มีผู้เล่นบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำได้บ้าง ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook