พาณิชย์ เคาะเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 10 ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชี 21 ธ.ค. 65

พาณิชย์ เคาะเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 10 ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชี 21 ธ.ค. 65

พาณิชย์ เคาะเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 10 ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชี 21 ธ.ค. 65
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงพาณิชย์ เคาะจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 10 จ่ายชดเชย 4 ชนิด ข้าวเปลือกหอมมะลิรับสูงสุด ธ.ก.ส. จะโอนเข้าบัญชีในวันที่ 21 ธ .ค. 65

เว็บไซต์ thebangkokinsight รายงานว่า นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแล และกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ระบุ คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 งวดที่ 10 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 10-16 ธ.ค. 65 โดยจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเจ้า ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ไม่ต้องจ่าย เพราะราคาสูงกว่าเป้าหมาย

สำหรับการชดเชยส่วงต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์อ้างอิง งวดที่ 10 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ เกณฑ์กลางตันละ 13,924.10 บาท ชดเชยตันละ 1,075.90 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 15,062.60 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,401.24 บาท ชดเชยตันละ 598.76 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 9,580.16 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 10,711.69 บาท ชดเชยตันละ 288.31 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 7,207.75 บาท ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,503.11 บาท ชดเชยตันละ 496.89 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 14,906.70 บาท และข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,226.11 บาท สูงกว่าราคาเป้าหมายที่ตันละ 12,000 บาท จึงไม่มีการชดเชยส่วนต่างในงวดนี้

untitled

ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินให้เกษตรกรภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 21 ธ.ค. 65

ส่วนผลการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ณ วันที่ 15 ธ.ค. 65 ทาง ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรแล้ว ในงวดที่ 1-9 สำหรับเกษตรกรที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวภายในวันที่ 9 ธ.ค. 65 จำนวน 2.479 ล้านครัวเรือน โดยขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝาก และติดต่อกับ ธ.ก.ส. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการ เช่น กรณีปัญหา ชื่อ-สกุล ไม่ตรง บัญชีปิด บัญชีถูกอายัติ หรือหากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรที่ติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป

นายอุดม ระบุ สถานการณ์ซื้อขายข้าวเปลือกในช่วงนี้ ราคาโดยรวมมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากส่งออกในปีนี้ทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดว่าสิ้นปีจะส่งออกได้ 7.8-7.9 ล้านตัน เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในฤดูกาลผลิตนี้่จะยังคงอยู่ในระดับที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา

"กรมฯ ได้เพิ่มการติดตามดูแลซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ และการตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนัก และเครื่องวัดความชื้่น หากพบเห็นว่าท่าข้าว หรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อโกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569" นายอุดม กล่าว

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 4 ได้ประกันราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook