“ไฮด์แอนด์ซีค” นิลมังกรไทยตัวแรกจาก NIA รุกตลาดทาสแมว ผ่านโมเดลร่วมทุนกับบิ๊กธุรกิจ
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ จำกัด และบริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด ร่วมลงนามการลุงทุนในธุรกิจทรายแมว “ไฮค์แอนด์ซีค” นวัตกรรมเพื่อคนรักสัตว์เลี้ยง ถือเป็น “นิลมังกร” ตัวแรกของประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวทีโครงการแข่งขันประกวดสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทย (นิลมังกร 2565) พร้อมเผยโอกาสและมุมมองการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากนิลมังกรตัวแรกของไทย
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า NIA มุ่งสร้างให้เกิดการเพิ่มจำนวนวิสาหกิจนวัตกรรม เพื่อปฏิรูปโครงสร้างทาธุรกิจ การเร่งการเติบโตในการลงทุนทางนวัตกรรม เชื่อมกับการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย พร้อมกระตุ้นกิจกรรมและข้อมูลในระบบการร่วมลงทุน เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ธุรกิจนวัตกรรมให้กับภาคเอกชนไทย ซึ่งการร่วมลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมทรายแมว “ไฮด์แอนด์ซีค” ครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความพยายามในการส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศนวัตกรรมของ NIA ที่ตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมและใช้เครื่องมือทางนวัตกรรม มาเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการร่วมลงทุนให้มากขึ้น
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA เสริมว่า โครงการประกวดสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทย หรือ นิลมังกร เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย ศูนย์แบรนด์เคยู คณะบริหารธุรกิจ กับภาคีเครือข่าย 20 หน่วยงานทั่วประเทศ เพื่อเฟ้าหาผู้ประกอบการ ทั้ง SME และสตาร์ทอัพให้ภูมิภาค ที่มีการนำอัตลักษณ์ของพื้นที่ มาสร้างสรรค์ร่วมกับการใช้นวัตกรรม เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการสื่อสารในรูปแบบของการให้ความบันเทิงควบคู่ไปกับสาระ
ผลจากการดำเนินโครงการ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นให้กับทั้ง 20 แบรนด์นวัตกรรมไทยได้กว่า 400 ล้านบาท รวมถึงการปั้นนิลมังกรตัวแรกของประเทศไทย คือผลิตภัณฑ์ทรายแมวไฮค์แอนด์ซีค บริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่ใช้วัตถุดิบจากมันสำปะหลังที่ปลูกในประเทศไทย ผ่านกระบวนการในการปรับปรุงคุณสมบัติที่ช่วยเก็บกลิ่น และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ใน “รายการนิลมังกรเดอะเรียลริตี้” รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 6.5 เท่า ภายในระยะเวลา 3 เดือน และมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้น 50 เท่า ภายในระยะเวลา 2.5 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวอย่างธุรกิจนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว
ด้านวัฒนพร ตั้งสง่า ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการ บริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ทรายแมวไฮด์แอนด์ซีคเป็นมิตรต่อแมวผู้กลบและทาสผู้เก็บ เป็นนวัตกรรมที่เริ่มต้นจากการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และมองหาวัตถุดิบที่เป็นผลผลิตทางการเกษตรจนมาลงตัวที่มันสำปะหลัง เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยดูดซับกลิ่นและของเหลว และที่สำคัญสามารถทิ้งลงชักโครกได้ เพราะผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทรายแมวไฮด์แอนด์ซีคสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มมากขึ้น ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น และต้องเริ่มวางแผนขยายกำลังการผลิตให้ตอบสนองความต้องการของตลาด จึงทำให้เกิดการระดมทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต การตลาด และการส่งออกให้กับผลิตภัณฑ์ โดยมีภาคธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่อย่างโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ที่อยู่ในวงการสัตว์เลี้ยงอันดับต้นของประเทศไทย และบุญปวีณ บุญมีโชติ นักลงทุนอิสระ ร่วมลงทุนในครั้งนี้
ทั้งนี้ ในปี 2566 ได้มีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นทรายแมวเปลี่ยนสี โดยรองศาสตราจารย์ ดร.คเณศ วงษ์ระวี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.ลัญจกร อมรกิจบำรุง หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซึ่งได้รับทุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการพัฒนาสูตรทรายแมวเปลี่ยนสีที่จะช่วยติดตามอาการป่วยของแมวจากการปัสสาวะได้ ผู้เลี้ยงจะสามารถทราบถึงความผิดปกติของแมวได้ล่วงหน้า เพื่อรับการรักษาอย่างทันถ่วงที ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ได้รับรางวัลเหรียญทองสิ่งประดิษฐ์จาก Korea Invention Promotion Association สาธารณรัฐเกาหลี และรางวัล The Best Innovation จากสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน จากยอดขายในปี 2565 ของบริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด มียอดขายอยู่ที่ 8 ล้านบาท และในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายให้มียอดขายอยู่ที่ 20 ล้านบาท
พูลเพิ่ม ทองเจริญพูลพร กรรมการบริษัท และผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงินและผู้ประสานงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ จำกัด กล่าวว่า โอกาสการเติบโตในธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเฉลี่ยประมาณ 5 – 10% ต่อปี และขยายตัวต่อเนื่องจากคู่รักที่ไม่มีบุตร กลุ่ม LGBTQ และกลุ่มผู้สูงวัย ที่พร้อมจะจับจ่ายใช้สอยในเรื่องอาหาร ของใช้ รวมถึงบริการต่างๆ เพื่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง ซึ่ง “ผลิตภัณฑ์ทรายแมว” ก็เป็นสินค้าที่น่าสนใจที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้ และตอบโจทย์การใช้งานที่ง่าย สะดวกสบาย เหมาะกับผู้เลี้ยงแมวในระบบปิด