Cycle by SOS ร้านรวมเสื้อผ้าแฟชั่นมือสองกับคอนเซ็ปต์ “เปลี่ยนตู้เสื้อผ้าเป็นเงิน” สร้างรายได้ให้ผู้ขาย

“เสื้อผ้ามือสอง” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มการเติบโตสูง รับกับกระแสรักษ์โลก ลดโลกร้อน จะเห็นได้ว่าในต่างประเทศได้รับความนิยมสูงมาก กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ต่างหันมาสนใจซื้อหาเสื้อผ้ามือสองมากขึ้น ร้านขายเสื้อผ้ามือสองเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับในประเทศไทย ถือว่ายังมีน้อยมาก จึงถือว่าเป็นโอกาสใหม่ของธุรกิจนี้

Cycle by SOS แหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่นมือสองคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ หนึ่งเดียวในย่านสยามสแควร์ ได้กระแสตอบรับดีมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ไปจนถึงวัยทำงาน กับความโดดเด่นตั้งแต่ตัวอาคารที่สะดุดตา เมื่อเข้าไปในร้านให้ความรู้สึกเหมือนเดินช้อปปิ้งในห้างหรู แบ่งเป็น 4 ชั้น โดยชั้น 1-3 ได้รวบรวมสินค้ามือสองของ SOS ทั้งหมด และชั้น 4 จะเป็นโซน Cycle by SOS ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านที่โดดเด่นสไตล์สแกนดิเนเวีย ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเลือกช้อป

นายอริยะ จิรวรา Co-Founder of SOS Group & Head of CYCLE by SOS กล่าวถึงความเป็นมาของการทำธุรกิจที่เกิดจากการเห็นปัญหาของเสื้อผ้าที่มีล้นตู้และไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับเสื้อผ้าที่มี บางคนอยากจะระบายหรือขายแต่ไม่รู้จะประกาศขายในช่องทางไหนดี จึงมีแนวคิดที่จะทำร้านรับซื้อและขายเสื้อผ้ามือสอง ตามโปรเจค “เปลี่ยนตู้เสื้อผ้าให้เป็นเงิน” โดยรวบรวมสินค้ามือสอง ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ มาไว้ที่ร้านในจุดเดียว โดยผู้ขายเองก็จะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีให้เป็นรายได้ ขณะที่ทางฝั่งของผู้ซื้อยังได้ของที่มีคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ โดยทางร้านจะมีการคัดกรองสินค้าก่อน ซึ่งเสื้อผ้าจะต้องอยู่ในสภาพดีเกิน 80%

“Cycle by SOS เปิดให้บริการเมื่อกลางปี 2565 ภายใต้เครือ SOS Group มีเสื้อผ้าแฟชั่นที่ลูกค้าหรือผู้ซื้อมั่นใจได้เลยว่าจะได้ของคุณภาพดีกลับไปแน่นอน โดยเราตกแต่งร้านให้ดูสวยงามและมีสไตล์ ให้ความรู้สึกมาเดินเลือกซื้อสินค้าให้ร้านแพงๆ เรียกว่าอัพเกรดสินค้ามือสองให้น่าซื้อมากขึ้น โดยเราไม่ได้ตั้งธงว่าเสื้อผ้าจะต้องเป็น Brand Name เสื้อผ้าไม่มีแบรนด์ก็มาขายกับร้านได้ โดยมีช่องทางการขาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าร้าน เว็บไซต์ Facebook, Instargram, Line Official ช้อปปี้ โดยผู้ที่ต้องการจะขายสามารถสแกน Line และขายสินค้าได้เลย เพียงแค่ผู้ขายทำความสะอาดและรีดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย พร้อมทั้งถ่ายรูปสินค้ามาให้เรา โดยเราจะมีตารางราคาสินค้าที่จะเปิดขายส่งไปให้ และดูแลให้ทั้งระบบออนไลน์-ออฟไลน์ 100 % มีเจ้าหน้าที่ทำงานหลังบ้านให้บริการกว่า 10 ชีวิต เราตั้งมาตรฐานสินค้าของเราไว้แล้วระดับหนึ่ง และจะมาช่วยดูให้อีกครั้งว่า เมื่อสินค้าผ่านมาวางหน้าร้านของแล้ว เราจะมีทีมงานเดินดูสินค้าทุกอาทิตย์ หากพบว่าสินค้ามีคุณภาพไม่ถึง 80 % เราจะดึงออกทันที เพื่อให้คนที่มาเดินช้อปได้เห็นของดีน่าใช้ตลอดเวลา”

Cycle by SOS อยู่ในทำเลใจกลางย่านสยามสแคว์ ดังนั้นกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา และกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่คุณภาพของเสื้อผ้าคุณภาพดีเกิน 80% และราคาที่จับต้องได้เริ่มต้นที่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท การจัดวางสินค้าแบ่งหมวดหมู่ ดูมีสไตล์ ขณะนี้เริ่มมีผู้ขายนำสินค้าเกรดพรีเมียมมาขายกับทางร้านมากขึ้น โดยลูกค้าจะมีทั้งกลุ่มผู้หญิง 70-80 % และผู้ชาย 20-30%

“ตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นมือสองจะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทรนด์ของโลกในปัจจุบันจะเน้นไปทางรักษ์โลก และสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น โดยกระบวนการผลิตเสื้อผ้ามีการใช้พลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจกเยอะมากในแต่ละปี คนรุ่นใหม่จึงหันมาใส่ใจลดโลกร้อนกันมากขึ้น ดังนั้นการใช้เสื้อผ้ามือสองจึงถือเป็นการอนุรักษ์และลดโลกร้อนในระดับหนึ่ง โดยจะเห็นได้จากที่ต่างประเทศผู้คนจะหันมาใช้สินค้ามือสองมากขึ้นอย่างชัดเจน เราถือเป็นกลุ่มแรกที่หันมาทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง และทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพได้ ส่วนเรื่องเทรนด์การแต่งตัวนั้น หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีการวนลูปอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เสื้อผ้ากับเทรนด์ของร้านเราจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเรามีความหลากหลายของตัวสินค้าอยู่แล้ว”

ตอนนี้ Cycle by SOS การตอบรับลูกค้าดีมาก เดินเข้ามาดูตลอด และมีผู้ขายเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น และเรายังมี SOS Out Let ซึ่งจะมีของแบรนด์เนมที่เป็นของ SOS เอง ถามว่ามีแผนขยายสาขาหรือไม่ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ และกำลังศึกษาทำเลต่างๆ เพราะจริงๆ แล้วที่นี่ พื้นที่ 100 ตร.ม. เมื่อเทียบกับของที่เรามีก็ถือว่ายังน้อยอยู่

“จุดเด่นของ Cycle by SOS คือ เป็นร้านที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นมือสองหนึ่งเดียวในย่านสยามสแคว์ และเป็นหนึ่งเดียวในไทย ที่มีการออกแบบและแตกต่างเป็นร้านที่มีสไตล์ รูปแบบการจัดวางสินค้ามีความน่าสนใจ และมีการแบ่งโซนที่ชัดเจน ให้ความสำคัญทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ โดยร้านจะเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลัก สินค้าทุกชิ้นจะถูกตรวจสอบสภาพโดย SOS ทั้งหมด สำหรับทางฝั่งผู้ขายเราเป็น One Stop Service ให้บริการแทบทั้งหมด ภายใต้แนวทาง “เปลี่ยนตู้เสื้อผ้าให้เป็นเงิน” ในส่วนของคู่แข่งนั้น ส่วนตัวคิดว่าการมีคู่แข่งถือว่าดี เพราะการมีคนทำธุรกิจนี้มากขึ้น ก็เหมือนกันเป็นการช่วยโปรโมทธุรกิจประเภทนี้ ให้เป็นที่นิยมมากขึ้น อย่างในต่างประเทศ ธุรกิจเสื้อผ้ามือสองเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีคนทำเยอะมาก ซึ่งในไทยถือว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของธุรกิจนี้ และถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ธุรกิจนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีคนให้ความสำคัญกับการลดโลกร้อนมากขึ้นด้วย เราเป็นเจ้าแรกที่ก้าวมาทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง และเป็นเจ้าแรกที่กล้าทำขนาดนี้ สิ่งที่จะต้องมาแข่งขันกันก็คือ การบริการ คุณภาพสินค้า การตกแต่งร้านแล้วให้ผู้ซื้อเป็นผู้ตัดสินใจ และสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้าอย่างไร สิ่งสำคัญคือ เราต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง”