"ศิธา ทิวารี" ผู้พันปุ่น นักการเมืองชื่อดังมีรายได้ธุรกิจสุดคูล

ส่องธุรกิจ "ศิธา ทิวารี" หรือผู้พันปุ่น อดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ และนักการเมืองชื่อดัง สร้างรายได้สุดคูล

นาวาตรีศิธา ทิวารี หรือผู้พันปุ่น ถือเป็นนักการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นต่างๆ ต้องบอกว่าแรกเริ่มเดิมที่ก่อนที่ "ศิธา ทิวารี" จะเข้าสู่สนามการเมืองนั้น เขาเคยรับราชการในสังกัดกองทัพอากาศ เป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ F-5 และนักบินเครื่องบินขับไล่ F-16 โดยรับราชการเป็นนักบินกว่า 8 ปี โดยตำแหน่งสุดท้ายของ ศิธา คือ รองหัวหน้าแผนกแผนร่วม กองนโยบายและแผน กรมยุทธการ กองทัพอากาศ ก่อนตัดสินใจลาออกจากราชการ และเข้าสู่สนามการเมืองเต็มตัวในปี 2543

โดยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย สังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้งในปี 2544 และปี 2548 สองสมัยติดต่อกัน โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ต่อมาในปี 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมืองปี 2549

โดยในปี 2565 น.ต.ศิธา ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในสังกัดพรรคไทยสร้างไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง กระทั่งปี 2566 มาเขาลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในสังกัดพรรคเดิม ในการเลือกตั้งใหญ่ เดือน พ.ค. แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งเช่นกัน นอกจากบทบาทนักการเมืองแล้วอีกมุมหนึ่ง น.ต.ศิธา ทิวารี ยังเป็นนักธุรกิจอีกด้วย

Sanook Money ตรวจสอบข้อมูลจาก Creden Data ของ น.ต.ศิธา ทิวารี จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ผ่านระบบวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจรของ Creden Data พบว่า น.ต.ศิธา ทิวารี ปัจจุบันนั่งเป็นกรรมการบริษัท 1 แห่ง และเป็นผู้ถือหุ้นจำนวน 2 รายการ มูลค่าหุ้นทั้งหมด 18,486,144 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2553 พบรายชื่อนายศิธา ทิวารี เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ต่อมาบริษัทฯ ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2564 แจ้งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ปัจจุบันมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

• ปี 2564 รายได้ 798.04 ล้านบาท กำไร 80.07 ล้านบาท
• ปี 2565 รายได้ 662.91 ล้านบาท กำไร 42.40 ล้านบาท

ปี 2565 มีทรัพย์สินรวม 2,149.10 ล้านบาท หนี้สินรวม 992.94 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังพบว่า น.ต.ศิธา ทิวารี ยังถือหุ้นบริษัทอีก 2 แห่ง คือ บริษัท เรือเร็ว ลมพระยา จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจประกอบกิจขนส่งโดยเรือโดยสารประกอบกิจการขายสินค้า,บริการทัวร์ โดยถือหุ้นจำนวน 10,000 หุ้น (10.00%) มูลค่าหุ้น 18,217,202 บาท

บริษัท จี. เอส. ซิแร็มมิคซ์ แอนด์ พาเลท จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจกลุ่มวัสดุทนไฟกลุ่มไม้ โดยพบว่า น.ต.ศิธา ทิวารี ถือหุ้น 100 หุ้น (0.26%) มูลค่าหุ้น 268,942 บาท

ทั้งนี้ น.ต.ศิธา ทิวารี เคยมีธุรกิจที่ทำร่วมกับ โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตรด้วย นั่นคือบริษัท มาสเตอร์ โฟน จำกัด โดยจดทะเบียนเมื่อวันที่ 09 ธ.ค. 2546 พบรายชื่อ "ศิธา ทิวารี" นั่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท แจ้งดำเนินธุรกิจร้านขายปลีกอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ปัจจุบันสถานะนิติบุคคลเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 01 มี.ค. 2555