“แอ็คมี่ - วรวัฒน์” ทุ่มงบหมื่นล้าน ลงทุนใน UAE ดึงบริษัทระดับโลกเป็นที่ปรึกษา
วรวัฒน์ นาคแนวดี หรือ “แอ็คมี่” นักธุรกิจฟินเทคชื่อดังของไทย ทุ่มงบกว่า 10,000 ล้านบาท ลุยลงทุนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) พร้อมดึง TransEuro Group บริษัทระดับโลกมาเป็นที่ปรึกษา เผยได้ร่วมประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่ง UAE และเข้าหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้อำนวยการหอการค้าเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งดูไบ
วรวัฒน์คือเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในตลาดโลกมานานกว่า 10 ปี เป็นที่รู้จักในนาม “Acme Traderist” และเป็นซีอีโอของบิทแนนซ์ (Bitnance) บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) โดยเขาได้เปิดเผยถึงแผนการลงทุนใน UAE ครั้งนี้ ว่าได้ผสานความร่วมมือกับ TransEuro Group บริษัทตัวแทนและให้คำปรึกษาที่ดำเนินธุรกิจใน UAE มานานกว่า 20 ปี มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการลงทุนมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท (300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายของ UAE โดยเน้นที่เมืองดูไบเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury ธุรกิจบริการ บริการด้านฟินเทค และโอกาสทางการค้าการพาณิชย์ตามยุทธศาสตร์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการให้คำปรึกษาของ TransEuro Group
“การลงทุนใน UAE ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีธุรกิจมากมายที่น่าลงทุน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน และลงทุนแบบใดจึงจะประสบความสำเร็จ ผลจึงตัดสินใจให้ TransEuro Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง ทั้งทางกลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ และมีศักยภาพที่สูงมาก มาเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินธุรกิจ ผ่านทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก โดย TransEuro Group เป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตที่สำคัญมากมายจากรัฐบาล UAE ผมจึงมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญ ในการวางรากฐานการขยายธุรกิจของผมให้เติบโตมากยิ่งขึ้น” วรวัฒน์กล่าว
วรวัฒน์ ยังระบุว่า เขาได้รับเกียรติอย่างสูงในการเข้าร่วมประชุมผ่านระบบ VDO Conference กับ H.E. Younis Al Khoori รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แห่ง UAE เพื่อแนะนำตัวในฐานะนักธุรกิจไทยที่ร่วมลงทุนในดูไบ และยังได้เข้าร่วมประชุมกับ H.E. Khalid Al Jarwan ผู้อำนวยการบริหารหอการค้าเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งดูไบ โดยเป็นการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านการค้าการลงทุนในดูไบ โดยเฉพาะด้านสกุลเงินดิจิทัลที่ดูไบกำลังพัฒนา เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางคริปโตครบวงจร และเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนทั่วโลก นี่จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่วรวัฒน์มองว่าจะสามารถขยายธุรกิจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลไปยังดูไบในอนาคตอันใกล้อีกด้วย