ไร้เงา “รัฐบาลใหม่” เศรษฐกิจไทย แขวนอยู่บนเส้นด้าย?
![ไร้เงา “รัฐบาลใหม่” เศรษฐกิจไทย แขวนอยู่บนเส้นด้าย?](http://s.isanook.com/mn/0/ud/181/909203/s__23019548.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภายหลังผลโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ไม่ผ่าน ด่านสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีคะแนนเสียงเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรีเพียง 322 เสียง ซึ่งไม่ถึงครึ่ง 375 เสียง จากการลงคะแนนเสียงของส.ว. จำนวน 749 เสียง เมื่อวันที่13 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
ทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ทิศทางของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2566 แน่นอนว่าความอึมครึมกำลังเคลื่อนเข้ามาในน่านฟ้าเศรษฐกิจไทย หากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ทันปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก โดย ดร.ฐิติมา ชูเชิด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงิน Economic Intelligence Center หรือ EIC คาดการณ์ว่า จีดีพี ปี 2566 จะขยายตัวสูงสุดที่ 3.9% หากว่าในเดือนสิงหาคม ไทยยังไม่มีรัฐบาลใหม่และยืดเยื้อไปจนถึงเดือนตุลาคม เศรษฐกิจไทยอาจตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 อาจถูกประกาศล่าช้าถึง 6 เดือน ส่งผลต่อการเบิกจ่ายภาครัฐ รวมถึงนโยบายใหม่ๆในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งยิ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจไทย เพราะต้องการเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากการท่องเที่ยว และ ส่งออก
สอดคล้องกับความเห็นของ นายเกรียงไกร เธียรนุกลุ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เห็นว่า “เศรษฐกิจไทย” ตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น จากทิศทางที่เคยประเมินไว้ก่อนการเลือกตั้ง ว่าการเปลี่ยนผ่านการเมืองไทยจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่ผ่านมาแล้ว 1 เดือน ยังไม่มีเสถียรภาพ อีกทั้ง เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลต่อการส่งออกของไทย ตั้งแต่ปลายปี 2565 รวมถึงราคาพลังงานยังทรงตัวสูง ผู้ประกอบการทุกภาคอุตสาหกรรม ต้องเผชิญกับต้นทุนทางการเงิน ที่เป็นภาระมากขึ้น จากดอกเบี้ยนโยบายและอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน กระทบแผนการนำเข้า-ส่งออก ขณะที่ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อการใช้จ่ายกระทบการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นอีก 1 เครื่องยนต์หลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
เช่นเดียวกับ นายจิตเทพ เนื่องจำนงค์ ทายาทนักการเมืองคนรุ่นใหม่ มองว่า หากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ จะทำให้การขับเคลื่อนประเทศในทุกภาคส่วนเกิดการชะงัก เนื่องจากคณะรัฐมนตรีรักษาการ ไม่สามารถอนุมัติงานหรือโครงการที่มีผลผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เว้นแต่เป็นงบประมาณที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี นอกจากนี้ยังไม่สามารถอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในประเทศและน่าจะเห็นผลเร็ว คือ หวยใบเสร็จ ช่วยเอสเอ็มอี เมื่อซื้อสินค้ารายย่อย ทั้งคนซื้อคนขายได้หวย เพิ่มแต้มต่อ เติมทุน ลดรายจ่าย ลดภาษีให้ เอสเอ็มอี ซึ่งถูกจริตกับวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างมาก และอาจเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่สามารถกระตุ้นการจับจ่ายในประเทศให้เติบโตแบบก้าวกระโดดและกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น นักลงทุนไทยและเทศ กำลังจับตาทิศทางและความชัดเจนของการเมืองไทยอยู่ ซึ่งมีท่าทีจะยืดเยื้อออกไป หรือ หลุดระยะเวลาที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ จะมีความเสียหายทางเศรษฐกิจตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเครื่องยนต์หลัก ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย อาทิ ภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจมีความกังวล ไม่มั่นใจความปลอดภัย หากเกิดการชุมชนที่มีความรุนแรง อาจเบนเข็มไปประเทศเพื่อนบ้านแทน ส่วนการส่งออก ทิศทางไม่ดี ติดลบ จากปัจจัยโลกที่ควบคุมไม่ได้ เศรษฐกิจไทยในช่วงนี้คงเรียกได้แขวนอยู่บนเส้นด้าย หากไร้เสถียรภาพทางการเมือง