เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รับเงินสูงสุด 1,000 บาท เช็กเงื่อนไข วิธีลงทะเบียนด่วน
วิธีลงทะเบียน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รับเงิน 600-1,000 บาท เช็กเงื่อนไขรายละเอียดใครมีสิทธิสมัครขอรับเงินได้บ้าง
การลงทะเบียน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินตามขั้นบันได 600-1,000 บาท ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้กี่บาท ?
- อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 600 บาทต่อคนต่อเดือน
- อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 700 บาทต่อคนต่อเดือน
- อายุ 80 – 89 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 800 บาทต่อคนต่อเดือน
- อายุ 90 ปี ขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน
ปฏิทินการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566 เข้าวันไหน ?
- เดือนตุลาคม 2565 วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565
- เดือนพฤศจิกายน 2565 วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2565
- เดือนธันวาคม 2565 วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565
- เดือนมกราคม 2566 วันอังคารที่ 10 มกราคม 2566
- เดือนกุมภาพันธ์ 2566 วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566
- เดือนมีนาคม 2566 วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566
- เดือนเมษายน 2566 วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566
- เดือนพฤษภาคม 2566 วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566
- เดือนมิถุนายน 2566 วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566
- เดือนกรกฎาคม 2566 วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566
- เดือนสิงหาคม 2566 วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566
- เดือนกันยายน 2566 วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566
ผู้สูงอายุที่ยังไม่เคยรับเบี้ยยังชีพ สามารถตรวจสอบเงื่อนไข รายละเอียดการลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาได้ ดังนี้
ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ใช้อะไรบ้าง ?
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีรูปถ่าย
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน(ที่เป็นปัจจุบัน)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ / ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (สำหรับกรณีประสงค์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านทางธนาคาร)
ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนเองได้ สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำร้องขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้
คุณสมบัติ ผู้สูงอายุที่สามารถสมัครรับเบี้ยยังชีพ ได้มีดังนี้
- สัญชาติไทย
- มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยาบน 2507
- ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ,รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เก่า)
- เป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด (ใหม่)
ระยะเวลาลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
- กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุ 59 ปี สามารถลงทะเบียนตั้งแต่ ต.ค.65-พ.ย. 65 และเดือน ม.ค. 66 -ก.ย. 66 โดยจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไป เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
- กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปและยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพสามารถลงทะเบียนตั้งแต่ ต.ค. 65 - พ.ย. 65 และ ม.ค. 66 - ก.ย. 66 และจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่ ต.ค. 2566 เป็นต้นไป
วิธีลงทะเบียน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ผู้ที่มีอายุ 59 ปีและเกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคมในปีนั้นๆ สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีนั้นเดียวกัน และเมื่อครบ 60 ปีในปีถัดไปจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยปีนี้คือปี 2566 นั่นเอง
อย่างไรก็ดี ตามระเบียบใหม่ (ระเบียบกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2566) การได้รับสิทธิของผู้สูงอายุ จะไม่มีการลงทะเบียนแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะแจ้งไปยังผู้สูงอายุที่มีสิทธิแล้วให้ตัวเอง/ตัวแทนแนบเอกสารกลับมาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ แบบยืนยันสิทธิการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำหรับกรณีที่ขอรับเบี้ยผ่านธนาคาร
อย่างไรก็ตาม การรับสิทธิตามระเบียบใหม่นั้นยังต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ขอให้ท่านติดตามข้อมูลต่อไป ในขณะนี้ผู้ที่มีอายุครบ 60 ปียังต้องดำเนินการลงทะเบียนรับสิทธิตามเดิม
ขั้นตอนการยื่นขึ้นทะเบียน
การยื่นขึ้นทะเบียนและแนวทางการปฎิบัติของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย
- ประกาศและประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุทราบสิทธิของตนเอง
- ลงทะเบียนตามวัน เวลา สถานที่ที่กำหนด (ในวันและเวลาราชการ)
- ให้ผู้สูงอายุลงทะเบียนได้ตามแบบรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ด้วยตนเอง
ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้ที่ไหน ?
- กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนที่สํานักงานเขต
- ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ผู้สูงอายุมีภูมิลำเนา