เปิดเกณฑ์ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ กลุ่มไหนได้ปรับเท่าไหร่ เช็กที่นี่
เปิดหลักเกณฑ์ ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ-เจ้าหน้าที่รัฐ หลัง ครม. เคาะปรับขึ้นเงินเดือน 10% 2 ปีงบประมาณ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เสนอ มีเป้าหมายการปรับฐานเงินดือนใหม่ และรายได้ต่างๆ ให้กับผู้ที่จบปริญญาตรี และรายได้ต่างๆ ให้กับผู้ที่จบปริญญาตรี และระดับ ปวช. ที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่
"ครม.มีมติเห็นชอบและให้หน่วยงานต่าง ๆ ไปดำเนินการตามที่ครม.อนุมติเริ่มดำเนินการได้เลย เริ่มตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567" นายชัย กล่าว
โดยตามผลการศึกษาของสำนักงาน ก.พ. แบ่งรายละเอียดออกเป็นกลุ่ม ดังนี้
การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่บรรจุใหม่จะปรับเพิ่มให้ 2 กลุ่ม
โดยให้ภายใน 2 ปี จะปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มปีละ 10% ในปี 2567 และ 2568 เงินเดือนจะปรับขึ้นขั้นในฐานเงินเดือนต่างๆ ดังนี้
-
ปวช. เงินเดือนปรับเพิ่มเป็น 11,380-12,520 บาทต่อเดือน
-
ปวส. เงินเดือนปรับเพิ่มเป็น 13,920-15,320 บาทต่อเดือน
-
ผู้จบปริญญาตรี ปรับเพิ่มเป็น 18,150-19,970 บาทต่อเดือน
-
ผู้จบปริญญาโท ปรับเพิ่มเป็น 21,180-23,300 บาทต่อเดือน
-
ผู้จบปริญญาเอก ปรับเพิ่มเป็น 25,410-27,960 บาทต่อเดือน
เงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยข้าราชการเดิมที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่าฐานของข้าราชการบรรจุใหม่ ให้มีการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยย้อนหลังให้ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว มีการปรับฐานเงิน จากเพดานเดิม ได้แก่
- ข้าราชการ ที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 13,285 บาท เดิมจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท โดยจะปรับเพดานใหม่เป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 14,600 บาท จะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 14,600 บาท
-
เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท เดิมจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท โดยจะปรับเพดานใหม่เป็น 11,000 บาท หากใครที่ได้รับเงินไม่ถึงจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 11,000 บาท
การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งนี้ จะใช้งบประมาณในปีแรก คือปีงบประมาณ 2567 วงเงินประมาณ 7,200 ล้านบาท ส่วนปีที่ 2 คือ ปีงบประมาณ 2568 วงเงินประมาณ 8,800 ล้านบาท แต่ในการดำเนินการในปีแรกงบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นวงเงินที่ใช้จริงจึงใช้แค่ 5 เดือนเท่านั้น ส่วนงบประมาณช่วยเงินค่าครองชีพชั่วคราว ตั้งงบประมาณไว้ปีละไม่เกิน 3,000 ล้านบาท