ข่าวหุ้นไทยวันนี้ 13 ธ.ค. 66 หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวลงกว่าตลาดต่างประเทศ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งตัวลง ทดสอบ Low เดิมที่ 1,366 จุด อ่อนตัวกว่าตลาดหุ้นในต่างประเทศ รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงเกือบ 4% และเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง กระตุ้นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันมองว่านักลงทุนน่าจะกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐที่ยังไม่มีความชัดเจนเท่าไหร่ และยังเป็นผลลบต่อภาคเอกชนด้วย เช่น การปรับขึ้นค่าเอฟที (Ft) ที่ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ตลาดคาดการณ์ผลกระทบได้ยาก
ประกอบกับวันนี้นักลงทุนเลือกรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้จะส่งสัญญาณ ต่อทิศทางดอกเบี้ยอย่างไร
ให้แนวรับไว้ที่ 1,366 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไป 1,360 จุด และแนวต้าน 1,385 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (12 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,577.94 จุด เพิ่มขึ้น 173.01 จุด หรือ +0.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,643.70 จุด เพิ่มขึ้น 21.26 จุด หรือ +0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,533.40 จุด เพิ่มขึ้น 100.91 จุด หรือ +0.70%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,973.47 จุด เพิ่มขึ้น 129.77 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,311.71 จุด ลดลง 62.79 จุด หรือ -0.38% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,997.34 จุด ลดลง 6.10 จุด หรือ -0.20%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ธ.ค.66) ที่ 1,373.92 จุด ลดลง 7.07 จุด (-0.51%) มูลค่าซื้อขาย 35,320.01 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 814.26 ล้านบาท (8 ธ.ค.66)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.(12 ธ.ค.) ลดลง 2.71 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 68.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 66
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ธ.ค.66) อยู่ที่ 6.86 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.75 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค รอดูสัญญาณดอกเบี้ยจากเฟด
- “เศรษฐา” คิกออฟแก้หนี้ ในระบบ 16 ล้านล้าน แบ่งลูกหนี้ 4 กลุ่ม ตามสภาพหนี้ พร้อมโอนหนี้กลุ่มเรื้อรังไปเอเอ็มซี 3 ล้านราย “คลัง” เสนอมาตรการเฉพาะกลุ่มเข้า ครม.ภายใน ธ.ค.นี้ พร้อมมาตรการช่วยลูกหนี้ดีเป็นของขวัญปีใหม่ นายกฯ ลั่นแก้หนี้ได้หมดใน 4 ปี จับตา บัตรเครดิตเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ 6.7 หมื่นล้าน ให้เข้าคลินิกแก้หนี้ยืดหนี้เป็น 10 ปี จ่ายดอกเบี้ยต่ำ 3-5%
- “พิพัฒน์” ถอนมติบอร์ดค่าจ้างพ้น ครม.กลับไปทบทวนใหม่ ชี้ ครม.เห็นพ้องไม่เห็นด้วยสูตรค่าแรง เอาตัวเลขฐานปี 2563-2564 ช่วงโควิดระบาดมาคิด ยันเสร็จทันใช้ 1 ม.ค.67 ตามเดิม “ปลัดแรงงาน” รับลูกเรียกถกบอร์ดชุดใหญ่ สัปดาห์หน้า ปรับสูตรใหม่ ส่งกลับ ครม.ภายในเดือน ธ.ค. นายกฯ รับลุ้นหวังได้ตัวเลขสูงกว่า 2.37%
- รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอตรึงค่าไฟงวดแรกปี 2567 อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ช่วยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน หรือคิดเป็น 75% ของผู้ใช้ไฟทั้งประเทศ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น
- พาณิชย์เผยสำรวจแผนท่องเที่ยวฉลองปีใหม่ คนไทยวางแผนท่องเที่ยว ในไทยปี’67 ดีกว่าปี’66 แต่เพิ่มในอัตราต่ำ เพราะยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และแบกภาระทางการเงินสูง นิยมเที่ยวระยะสั้นในภูมิลำเนาเป็นหลัก
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 2.5% จาก 3.0% และปีหน้าที่ 3.1% แต่หากนับรวม Digital Wallet คาดว่าจะโตได้ 3.6% ระบุทิศทางเศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ยังคงเผชิญกับปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสเข้า Sofe Landing จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐปีหน้า หากไม่ผ่านการอนุมัติอาจกดดันให้ ธปท.ต้องลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
- EV จีนไล่ทุบรถญี่ปุ่น ปี 66 ฟันยอดขายไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นคัน เร่งตั้งโรงงานเดินสายการผลิตในไทยไตรมาสแรกปี 2567 รับเงินสนับสนุน EV 3.0 ต่อเนื่อง ค่ายรถญี่ปุ่นตัดพ้อเอื้อประโยชน์จีนมากเกินไป หวั่นรัฐสูญรายได้แบบไป-กลับ แสนล้านบาท ทั้งจ่ายงบอุดหนุน และขาดรายได้จากภาษีของรถญี่ปุ่นที่ยอดขายหายไป หวังเพิ่งนายกฯเศรษฐา คลอดแพ็กเกจช่วยปีหน้า
หุ้นเด่นวันนี้
- BCH (ดาโอ) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท จากแนวโน้มผลประกอบการมีการฟื้นตัว และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมด้านสาธารณสุขของรัฐบาล ทั้งในเรื่อง นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ส่งเสริมกลไกสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และอื่นๆ จะเอื้อต่อธุรกิจของโรงพยาบาลที่อยู่ในระบบประกันสังคม และโครงการด้านสุขภาพของภาครัฐฯอื่นๆ และกระแส ESG กำลังมาแรง ทำให้ BCH เป็นหนึ่งในหุ้นที่อยู่ใน list ของ ESG ที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศมา 193 ตัว การตั้งกองทุน TESG หุ้น BCH อาจเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของกองทุนฯ
- TISCO (ไอร่า) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 104 บาท โดยมีความน่าสนใจในเชิง Defensive Stock จากการซื้อขายปัจจุบันที่คาดการณ์เงินปันผลบวกลบ 8.2% ขณะที่ TISCO มี Coverage Ratio ที่สูงถึง 205.8% ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยจากปัญหา NPL ในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เนื่องจากมีสำรองส่วนเกินค่อนข้างมากทำให้สามารถใช้สำรองส่วนดังกล่าวเข้ามาชดเชยกับ NPL ที่ปรับเพิ่มขึ้น
- KCG (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12 บาท เป็นผู้นำตลาดเนยและชีสที่มีส่วนแบ่งตลาดราว 55% และ 32% ตามลำดับ โดยเป็นแบรนด์ทีแข็งแกร่ง การบริโภคเนยและชีสต่อคนในไทยยังต่ำ และตลาดเนยและชีสเติบโตต่อเนื่องปีละ 5-7% KCG กำลังเข้าสู่โหมดการเติบโตจากการขยายกำลังผลิตทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ คาดกำไร 4Q23 โต 150% QoQ และ 21% YoY จากรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นตามช่วงเทศกาล และราคาหุ้นในปัจจุบันยังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม