ข่าวหุ้นไทยวันนี้ 21 ธ.ค. 66 หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งย่ำฐานรับแรงกดดันดาวน์โจนส์ปรับลง

ข่าวหุ้นไทยวันนี้ 21 ธ.ค. 66 หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งย่ำฐานรับแรงกดดันดาวน์โจนส์ปรับลง

ข่าวหุ้นไทยวันนี้ 21 ธ.ค. 66 หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งย่ำฐานรับแรงกดดันดาวน์โจนส์ปรับลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งไซด์เวย์ย่ำฐานแถว 1,400 จุด บวกลบ สอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาค รับแรงกดดันจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงกว่า 1% เมื่อคืนนี้ จากแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และนักลงเริ่มชะลอการลงทุนก่อนหยุดยาว แต่คาดว่าหุ้นไทยจะยังได้ปัจจัยหนุนจากกองทุน TESG เข้ามาพยุงเอาไว้ได้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,395-1,390 จุด และแนวต้าน 1,405-1,415 จุด และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,420 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ย่ำฐานแถว 1,400 จุด บวกลบ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ เนื่องจากSentiment การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ไม่ค่อยดี จากถูกเทขายทำกำไร หลังดัชนีปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดปรับตัวลงมากกว่า 1% กดดันต่อบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก

ประกอบกับนักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสแล้ว รวมถึงรอดูการเปิดเผยตัวเลข PCE ในวันศุกร์นี้ โดยตลาดคาดว่าจะออกมาชะลอตัว หากเป็นไปตามคาดคงไม่ได้บวกต่อตลาดหุ้นมากนัก เนื่องด้วยมองว่าได้สะท้อนในราคาหุ้นส่วนใหญ่ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินกองทุน TESG ที่ทยอยไหลเข้า ซึ่งน่าจะช่วยพยุงตลาดเอาไว้ได้

ให้แนวรับไว้ที่ 1,395-1,390 จุด และแนวต้าน 1,405-1,415 จุด หากผ่านได้ให้แนวต้านถัดไปที่ 1,420 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,082.00 จุด ลดลง 475.92 จุด หรือ -1.27%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,698.35 จุด ลดลง 70.02 จุด หรือ -1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,777.94 จุด ลดลง 225.28 จุด หรือ -1.50%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,276.81 จุด ลดลง 399.13 จุด หรือ -1.19% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,455.14 จุด ลดลง 158.67 จุด หรือ -0.96% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,892.02 จุด ลดลง 10.09 จุด หรือ -0.35%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ธ.ค.66) ที่ 11,400.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด (+0.39%) มูลค่าซื้อขาย 42,449.44 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 94.66 ล้านบาท (20 ธ.ค.66)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.(20 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 74.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ธ.ค.66) อยู่ที่ 8.63 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.98 คาดธุรกรรมเบาบาง แนวโน้มแกว่งในกรอบ 34.85-35.10
  • สรท.จับตาสถานการณ์โจรสลัดฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์ขนส่งผ่านทะเลแดง เผยไทยส่งสินค้าผ่านช่องทางนี้ไปยุโรป 8% หวั่นหากยืดเยื้อเกิน 1 อาทิตย์ ดันค่าระวางเรือขึ้น กระทบส่งออกไทย ปี 2567 ด้านเรือขนส่งทยอยทอดสมอในทะเลแดง อ้อมแหลมกู๊ดโฮปเพิ่มเวลา 7-14 วัน
  • คมนาคมชู “แลนด์บริดจ์” ศูนย์กลางการขนส่งทางเรือของโลก หลังพบดีมานด์ส่งออกเชื่อมเอเชีย-ยุโรป-แอฟริกา พุ่งต่อเนื่อง เปิดประมูลปี 2569 มั่นใจ นักลงทุนและธุรกิจสายการเดินเรือตอบรับดี เตรียมประมูลปี 2568 “ปานปรีย์” เผยนายกฯ เร่งโรดโชว์แลนด์บริดจ์ “บีโอไอ” ชูจุดแข็งการลงทุนสีเขียว มั่นใจ “อีวี” จุดเปลี่ยนสู่กรีนอีโคโนมี
  • “สมาคมเช่าซื้อรถจักรยานยนต์” โอดเกณฑ์ใหม่ สคบ.คุมสัญญาฯ ปีแรก กดสินเชื่อใหม่ลดลง 10-15% และช่วงสุญญากาศ รอประกาศกำกับภายใต้ ธปท. คาดปีหน้ายังคุมเข้ม และประคองตัวให้อยู่รอด
  • “คลัง” เร่งหารือนายกฯ เตรียมยกเครื่องกฎหมาย คปภ. ปิดช่องโหว่ กำกับ “ธุรกิจประกันภัย” หวังเรียก ความเชื่อมั่นและคุ้มครองผู้บริโภค เผยรัฐเตรียมจัดสรรงบ 3-4 พันล้าน เพื่อสมทบเข้ากองทุนวินาศภัย แต่ภาระหนี้ กองทุนฯ พุ่งเกือบ “แสนล้าน” หาก รวมผลขาดทุน “สินมั่นคง” ชี้เป็นภาระงบประมาณต้องสมทบตาม กฎหมาย
  • ส.อ.ท.โอดยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ย.66 ลดลง 14.10% ช่วง 11 เดือนหดตัว 0.98% สะท้อนยอดขายที่ลดลง 9.76% จากปีก่อน จับตางานมอเตอร์เอ็กซ์โปช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BANPU (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 7.10 บาท เน้นเล่นสั้นๆ จากราคาหุ้นลงมามากอยู่ในช่วงขาลง ไม่แปลกใจหากชื่อหุ้นจะไปติด list ของหุ้นที่ถูกขายมาก หรือ “Program Trading” ราคาหุ้นล่าสุดซื้อขายที่ P/E ราว 10 เท่า ราคาถ่านหินล่าสุด 136 เหรียญ/ตัน กลับมาใกล้ระดับก่อนเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย ถือว่าลงมามาก มีโอกาส rebound ได้ จับตาภาวะอากาศหนาวของยุโรป และวิกฤตด้านพลังงาน (หากมี) กำไรงวด 9 เดือน อยู่ที่ 6.6 พันลบ.ปีนี้ กำไรอาจอยู่ในช่วง 8- 9 พันลบ.ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เงินปันผลขั้นต่ำทั้งปี @0.30 บาท ขึ้นกับกำไร ไตรมาส 4 หากออกมาดี ก็มีโอกาสสูงกว่านี้
  • KCG (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12 บาท เป็นผู้นำตลาดเนยและชีสที่มีส่วนแบ่งตลาดราว 55% และ 32% ตามลำดับ แบรนด์แข็งแกร่ง การบริโภคเนยและชีสต่อคนในไทยยังต่ำ ตลาดเติบโตต่อเนื่องปีละ 5-7% กำลังเข้าสู่โหมดขยายกำลังผลิตทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ คาดกำไรไตรมาส 4/66 +150% q-q, +21% y-y จากรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นตาม Festive Season และการขยายกำลังผลิตชีส IWS เราคาดกำไรสุทธิปี 66-68 เติบโต +19% ต่อปีจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการขยายกำลังผลิต IWS และเนยอีกเท่าตัว
  • BGRIM (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 32 บาท คาดได้ประโยชน์หากภาครัฐปรับโครงสร้างราคาพลังงานโดยเฉพาะการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติและจัดส่งก๊าซในอ่าวไทยที่มีราคาถูกให้โรงไฟฟ้ามากขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook