เบี้ยผู้สูงอายุ 2567-2568 เข้าวันไหน เช็กคุณสมบัติเงื่อนไขการลงทะเบียน
เบี้ยผู้สูงอายุล่าสุด ลงทะเบียนเมื่อไหร่ เช็กคุณสมบัติ เงื่อนไขการลงทะเบียนเพื่อขอรับเงิน 600-1,000 บาทต่อเดือน
เบี้ยผู้สูงอายุ เป็นสวัสดิการของรัฐที่เปิดให้ลงทะเบียนทุกปี การลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนถึงปีงบประมาณที่จะมีอายุครบ 60 ปี Sanook Money ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการลงทะเบียนผู้สูงอายุ 2567-2568 มาอัปเดตให้ทราบกัน
ลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ 2567 เมื่อไหร่?
เบี้ยผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ 2567 (เดือน ต.ค.66-ก.ย. 67) เปิดลงทะเบียนไปแล้วเมื่อเดือน ต.ค. 65-ก.ย. 66
หากใครเกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย. 2507 แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ต้องไปลงทะเบียนเพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2568 (เดือน ต.ค. 67-ก.ย. 68)
เบี้ยผู้สูงอายุปี 2567 เงินเข้าวันไหน
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน ยกเว้นตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุด
- เดือนมกราคม : วันพุธที่ 10 มกราคม 2567
- เดือนกุมภาพันธ์ : วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
- เดือนมีนาคม : วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567
- เดือนเมษายน : วันพุธที่ 10 เมษายน 2567
- เดือนพฤษภาคม : วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567
- เดือนมิถุนายน : วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567
- เดือนกรกฎาคม : วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
- เดือนสิงหาคม : วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567
- เดือนกันยายน : วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
- เดือนตุลาคม : วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
- เดือนพฤศจิกายน : วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
- เดือนธันวาคม : วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567
เบี้ยผู้สูงอายุ 2568 ลงทะเบียนเมื่อไหร่?
กรณีมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เคยลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย. 66 และเดือน ม.ค.-ก.ย. 67 จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค. 67 เป็นต้นไป (ไม่มีจ่ายย้อนหลัง)
กรณีจะอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2568 (เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย. 2508)
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย. 66 และเดือน ม.ค.-ก.ย. 67 จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น เกิดเดือน ม.ค. 68 จะได้รับเบี้ยยังชีพในเดือน ก.พ. 68 เป็นเดือนแรก
คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ 2568
- มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 คือ ต้องเกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย. 2508 (สำหรับผู้ที่ทราบแค่ปีเกิด แต่ไม่ทราบวันเกิด/เดือนเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ)
- มีสัญชาติไทย
- มีภูมิลำเนาอยู่ในเขต สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตามทะเบียนบ้าน
- ไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาก่อน ยกเว้นกรณีเพิ่งย้ายภูมิลำเนามาใหม่ สามารถมาลงทะเบียนใหม่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามทะเบียนบ้านใหม่ได้ เช่น เคยลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ปีนี้ย้ายทะเบียนมาอยู่จังหวัดชลบุรี ก็ให้มาลงทะเบียนใหม่ที่จังหวัดชลบุรี
- ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ อปท. อาทิ เงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ (ยกเว้นผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์)
ลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ 2568 ที่ไหน?
ลงทะเบียนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของตนเอง ได้แก่
- กรุงเทพฯ สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
- ต่างจังหวัด สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตามวัน-เวลาราชการ
กรณีผู้สูงอายุที่เคยลงทะเบียนมาก่อนแต่ย้ายภูมิลำเนาใหม่ ต้องยืนยันสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ องค์กรปกครอบส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามทะเบียนบ้านใหม่
เอกสารสำหรับลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุ 2568
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
- ทะเบียนฉบับเจ้าบ้าน
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับผู้ที่ขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร
สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอรับเงินแทนได้ โดยจะต้องมีเอกสารดังนี้
- หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ
สำเนาทุกฉบับต้องลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง หากผู้สูงอายุไม่สามารถเขียนได้ ให้พิมพ์ลายมือแทน
เบี้ยผู้สูงอายุ 2568 ได้เท่าไหร่?
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จะได้รับขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้สูงอายุ ดังนี้
- อายุ 60-69 ปี ได้รับเงิน 600 บาทต่อเดือน
- อายุ 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาทต่อเดือน
- อายุ 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน
วิธีการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- รับเงินสดด้วยตนเอง
- รับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ
- โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ
- โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ
อ่านเพิ่มเติม