ค่าเงินบาทวันนี้ 6 ก.พ. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ 6 ก.พ. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ 6 ก.พ. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทวันนี้ 6 ก.พ. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.79 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.90 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.76 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.79 บาทต่อดอลลาร์ โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 35.73-35.87 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าลง ตามการทยอยปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ทยอยลดความคาดหวังต่อโอกาสเฟดรีบลดดอกเบี้ย หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด อย่าง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการออกมาดีกว่าคาด โดยล่าสุดผู้เล่นในตลาดเริ่มไม่แน่ใจว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคมได้หรือไม่ ทั้งนี้ การอ่อนค่าลงของเงินบาทได้ถูกชะลอลงบ้าง จากการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ

บรรดาผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงออกมาดีกว่าคาด อาจทำให้เฟดไม่รีบลดดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดเคยประเมินไว้ และแม้ว่ามุมมองดังกล่าวจะกดดันบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Tesla -3.7%, Meta -3.3% ทว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคฯ ใหญ่ อย่าง Nvidia +4.8% หลังนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ได้ปรับเป้าราคาขึ้นจากเดิมราว +20% ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวลง -0.20% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.32%

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ยังได้แรงหนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่า เฟดอาจไม่รีบลดดอกเบี้ยและลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ อย่างไรก็ดี ในช่วงวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อาจไม่ใช่จุดสนใจของผู้เล่นในตลาด ทำให้ควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงิน ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน เพราะหากข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แย่กว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ “เร็วกว่า” เฟด ซึ่งมุมมองดังกล่าว อาจกดดันให้ เงินยูโร (EUR) ผันผวนอ่อนค่าลง และหนุนการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ได้

และนอกจากปัจจัยข้อมูลเศรษฐกิจจากฝั่งยูโรโซน เรามองว่า ค่าเงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากความกังวลว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจลดดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น จากที่ผู้เล่นในตลาดเคยประเมินไว้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของไทยล่าสุด ชะลอลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ทั้งนี้ เราประเมินว่า หากเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงทะลุโซนแนวต้าน 35.90 บาทต่อดอลลาร์ (ที่เราเคยมองว่า อาจเป็นจุด Peak ในระยะสั้น เมื่อวันที่ 26 มกราคม ไปได้) ก็จะเปิดโอกาสให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าต่อเนื่องทดสอบโซนแนวต้านสำคัญแถว 36.00-36.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก และจะเป็นการปิดฉากเทรนด์การแข็งค่าต่อเนื่องของเงินบาทนับตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

ในช่วงนี้ เรายังคงพบว่า ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.90 บาทต่อดอลลาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook