ค่าเงินบาทวันนี้ 11 เม.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนัก

ค่าเงินบาทวันนี้ 11 เม.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนัก

ค่าเงินบาทวันนี้ 11 เม.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทวันนี้ 11 เม.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนัก จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-37.00 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนัก จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง “เร็วและแรง” จนแตะโซนแนวต้าน 36.70 บาทต่อดอลลาร์ ตามที่เราได้ประเมินไว้ในวันก่อน (แกว่งตัวในช่วง 36.34-36.76 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว จากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ทำให้ผู้เล่นในตลาดกังวลว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยไม่ถึง 2 ครั้งในปีนี้ (โอกาสลด 2 ครั้ง อยู่ที่ราว 67%) ขณะเดียวกันบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็พุ่งสูงขึ้นทะลุระดับ 4.50% ตามความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดดังกล่าว ส่งผลให้ ราคาทองคำพลิกกลับมาปรับตัวลดลงหนัก นอกจากนี้ เงินบาทยังเสี่ยงเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม หลังราคาน้ำมันดิบพลิกกลับมาพุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางความเสี่ยงความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจทวีความร้อนแรงมากขึ้น หากอิหร่านและพันธมิตรเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจริง ตามคำเตือนของสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตก

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญแรงเทขายหนัก กระจายตัวไปในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาดราว -0.95%

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า ความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ที่ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยไม่ถึง 2 ครั้งในปีนี้ อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 37 บาทต่อดอลลาร์ ที่เราประเมินไว้สำหรับสัปดาห์นี้ได้ไม่ยาก ทว่า เงินบาทอาจมีโซนแนวต้านอยู่ในช่วง 36.80-36.85 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนแนวต้านในช่วงที่ผ่านมา (หากอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าว แนวต้านถัดไปจะอยู่แถว 37 บาทต่อดอลลาร์) นอกจากนี้ เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม จากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจทวีความรุนแรงและบานปลายมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องได้ ทั้งนี้ หากราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากความกังวลความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ก็อาจช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าของเงินบาทจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้บ้าง (คล้ายกับในช่วงแรกของการโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสในปีก่อนหน้า) และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเรามองว่า มีความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติอาจทยอยขายบอนด์ไทยเพิ่มเติม ตามแนวโน้มธนาคารแห่งประเทศไทยและเฟดที่อาจยังไม่รีบลดดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนฟันด์โฟลว์ฝั่งหุ้นก็มีแนวโน้มผันผวนสูง และยังมีความไม่แน่นอนว่า นักลงทุนต่างชาติจะเดินหน้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง หรือไม่ หากบรรยากาศในตลาดการเงินยังเผชิญแรงกดดันอยู่ ส่วนเงินบาทก็เสี่ยงผันผวนอ่อนค่าต่อได้

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนจากค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลังล่าสุด เงินเยนญี่ปุ่นได้อ่อนค่าเข้าใกล้ 153 เยนต่อดอลลาร์ ทำให้เรามองว่า มีความเสี่ยงที่ทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงค่าเงินได้ โดยการเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนรอบก่อนหน้าของทางการญี่ปุ่น ก็ส่งผลให้เงินเยนพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเร็วและแรง จนทำให้ตลาดค่าเงินอาจผันผวนสูงในระยะสั้น

อนึ่ง เรามองว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูงกว่าปกติ ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-37.00 บาทต่อดอลลาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook