ค่าเงินบาทวันนี้ 7 มิ.ย. 67 เปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 36.41 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ 7 มิ.ย. 67 เปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 36.41 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ 7 มิ.ย. 67 เปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 36.41 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทวันนี้ 7 มิ.ย. 67 เปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 36.41 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.48 บาทต่อดอลลาร์ ประเมินกรอบ 36.25-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.41 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.48 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการแถลงของประธาน ECB แต่โดยรวมเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 36.40-36.55 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าตามการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลัง ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง ตามที่ตลาดคาดหวังไว้ แม้ว่าในการประชุมครั้งนี้ ECB จะลดดอกเบี้ยลง -25bps ตามที่ตลาดคาดไว้ก็ตาม ซึ่งภาพดังกล่าวได้หนุนให้ เงินยูโร (EUR) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น กดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลง นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์ ได้หนุนให้ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นราว +20 ดอลลาร์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนเลือกที่จะทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง ก่อนรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์นี้ และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาท

บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่กล้าเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม เพื่อรอลุ้นรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ก่อน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็เลือกที่จะขายทำกำไรหุ้นเทคฯ ใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา อาทิ Nvidia -1.2% ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.02%

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 36.35-36.55 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ได้ โดยเราประเมินว่า แม้เงินบาทจะแข็งค่าหลุดแนวรับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอยู่แถวโซนเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ทว่าการแข็งค่าของเงินบาทก็อาจชะลอลงบ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วน โดยเฉพาะฝั่งผู้นำเข้าอาจรอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในโซนต่ำกว่า 36.50 บาทต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศ อย่าง เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยเข้าซื้อเงินเยน (JPYTHB) ในช่วงนี้ได้ และนอกเหนือจากโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าว เราคาดว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติก็อาจยังไม่รีบกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้ จนกว่าตลาดจะมั่นใจในแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หรือ ความวุ่นวายของการเมืองในประเทศไทยจะคลี่คลายลงมากขึ้น ทำให้เงินบาทเสี่ยงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ หากนักลงทุนต่างชาติเลือกที่จะขายสุทธิสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ โดยจากสถิติย้อนหลัง 1 ปี เราพบว่า เงินบาทสามารถผันผวนอ่อนค่าลงได้กว่า 0.33% หากรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ อย่าง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ออกมาสูงกว่าคาด ในทางกลับกัน หากรายงานข้อมูลดังกล่าวออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจหนุนให้เงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นกว่า 0.37% ได้ สะท้อนว่า ตลาดการเงินอาจอ่อนไหวกับข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด ได้มากกว่า ข้อมูลการจ้างงานที่ดีกว่าคาด

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.35-36.55 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ และประเมินกรอบ 36.25-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook