ค่าเงินบาทวันนี้ 19 มิ.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.67 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น
![ค่าเงินบาทวันนี้ 19 มิ.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.67 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น](http://s.isanook.com/mn/0/ud/185/925127/bath.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 19 มิ.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.67 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.83 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.55-36.80 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าธนาคารกรุงไทย ระบุค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.67 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.83 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 36.65-36.85 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดต่างมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ จากรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมที่ขยายตัวเพียง +0.1%m/m น้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้ นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังได้หนุนให้ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นราว +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนเลือกที่จะทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมาเช่นกัน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่าเฟดยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ขณะเดียวกัน การปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่ม Semiconductor อาทิ Nvidia +3.5% ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็เริ่มทยอยขายทำกำไรหุ้นเทคฯ ใหญ่ออกมาบ้าง เช่น Meta -1.4% ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพียง +0.25%
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทได้ชะลอลง หลังความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทยได้คลี่คลายลงบ้างในระยะสั้น ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท หากบรรดานักลงทุนต่างชาติไม่ได้เดินหน้าขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม นอกจากนี้ มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงเชื่อว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะหลังที่ทยอยออกมาแย่กว่าคาด ก็มีส่วนช่วยลดทอนการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ได้ในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ก็อาจยังไม่สามารถพลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ชัดเจน เนื่องจากฝั่งยุโรปก็ยังมีความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศสอยู่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันไม่ให้เงินยูโร (EUR) สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ในช่วงนี้ และแม้ว่าเงินบาทอาจพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นราว +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่เราก็มองว่า การแข็งค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทำให้เงินบาทก็อาจยังติดในโซนแนวรับแถว 36.50-36.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวต้านก็ยังคงเป็นช่วง 36.80-36.90 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนี PPI ของอังกฤษ (ช่วง 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) เพราะหากอัตราเงินเฟ้อชะลอลงมากกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับมุมมองต่อแนวโน้มการทยอยลดดอกเบี้ยของ BOE ให้เร็วขึ้นจากช่วงปลายไตรมาส 3 ซึ่งอาจกดดันให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) มีโอกาสอ่อนค่าลงได้บ้าง และเป็นปัจจัยที่หนุนเงินดอลลาร์ในช่วงนี้
เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.55-36.80 บาทต่อดอลลาร์