ค่าเงินบาทวันนี้ 21 มิ.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.73 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
![ค่าเงินบาทวันนี้ 21 มิ.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.73 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย](http://s.isanook.com/mn/0/ud/185/925211/bath.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 21 มิ.ย. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.73 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.77 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.85 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.73 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.77 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.69-36.78 บาทต่อดอลลาร์) โดยแม้ว่าเงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลังตลาดมองว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แม้จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25% ตามคาด แต่ BOE ก็มีการส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนเริ่มคาดว่า BOE อาจทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินเยนญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับไม่ได้อ่อนค่าไปมาก ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำที่ช่วยพยุงเงินบาทเอาไว้ หลังราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นราว +30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความหวังการทยอยลดดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางหลัก รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งฝั่งตะวันออกกลางและสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมเคลื่อนไหวผสมผสาน ท่ามกลางแรงขายทำกำไรบรรดาหุ้นธีม AI/Semiconductor อย่าง Nvidia -3.5%, Apple -2.2% ทว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง ตามการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ Exxon Mobil +2.2% หลังราคาน้ำมันดิบได้ทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้ ทำให้โดยรวม แม้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq จะปรับตัวลง -0.79% แต่ดัชนี S&P500 ก็ปิดตลาดเพียง -0.25%
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าลงได้ หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก อย่างไรก็ดี โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ก็อาจชะลอลงได้บ้าง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการนั้นออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อว่า เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ ซึ่งในช่วงคืนที่ผ่านมาการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ได้ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท ทำให้ หากมีปัจจัยเข้ามากดดันราคาทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง เราคาดว่าเงินบาทก็อาจผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว (Buy on Dip) เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำ เช่น มีเป้าราคาทองคำ (XAUUSD) ในโซน 2,400-2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า เงินบาทก็อาจผันผวนไปตามฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ที่อาจยังคงทยอยขายสินทรัพย์ไทยต่อเนื่องได้ในช่วงนี้ จนกว่านักลงทุนต่างชาติจะมีความเชื่อมั่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมากขึ้น หรือ ความเสี่ยงการเมืองไทยลดลงชัดเจน ถึงจะเริ่มเห็นการทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยของบรรดานักลงทุนต่างชาติอีกครั้ง
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐฯ เพราะหากออกมาสูงกว่าคาด สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดความหวังที่เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ หนุนให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นได้ไม่ยาก
เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.85 บาทต่อดอลลาร์