อัปเดต วันลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท รอฟัง! 24 ก.ค.นี้

อัปเดต วันลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท รอฟัง! 24 ก.ค.นี้

อัปเดต วันลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท รอฟัง! 24 ก.ค.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เตรียมแถลงใหญ่ ประกาศ เปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท รู้ทุกอย่าง 24 ก.ค. นี้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า ไทม์ไลน์โครงการเงินดิจิทัลชัดเจนแล้ว โดยเช้าวันที่ 24 ก.ค. นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะแถลงถึงการเปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท การยืนยันตัวตน รวมถึงรายละเอียดโครงการฯ ทั้งหมด

ซึ่งตามไทม์ไลน์การดำเนิน โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการดิจิทัลฯ เพื่อที่จะสรุปเงื่อนไขทั้งหมดในวันที่ 10 ก.ค. 67 ก่อนนำเข้าสู่คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ และในวันที่ 30 ก.ค. 67 และสอบถามไปยังกฤษฏีกา

ส่วนการ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังเป็นไปตามกำหนดในไตรมาส 4 ปี 2567 ยังไม่ระบุวัน เพราะต้องมีความยืดหยุ่น ซึ่งทางรัฐบาลย้ำแต่แรกแล้วว่าจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนไตรมาสที่ 3 และแจกเงินไตรมาสที่ 4

สำหรับตีความเรื่องแหล่งเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่จะมาใช้ในโครงการนี้ นายเผ่าภูมิ ชี้แจงว่า ขั้นตอนจะต้องสรุปรายละเอียดทั้งหมดเป็นแพ็กเก็จ ซึ่งเงื่อนไขหรือข้อจำกัดต่าง ๆ ต้องถูกเคลียร์หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดให้สินค้าทุกประเภทเข้าร่วมโครงการฯ ได้ ยกเว้นสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ (Negative List)

“ทุกอย่างต้องชงเรื่องไปเป็นก้อน เพื่อให้กฤษฏีกาพิจารณาในรายละเอียดทั้งหมด ไม่ใช่จะไปถามลอยๆ ว่า ทำโครงการแบบนี้แล้ว จะทำได้หรือไม่ จึงสรุปได้ว่าเมื่อ ธ.ก.ส.ชงเรื่องเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงจะส่งเรื่องไปยังกฤษฏีกา ยืนยันว่า ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการและไทม์ไลน์แต่ต้องรอในระยะเวลาที่เหมาะสม เหตุที่รอคือ เงื่อนไขทุกอย่างจะต้องนิ่ง รวมถึงกรอบมาตรา 28 ตามกฏหมาย” นายเผ่าภูมิ กล่าว

แหล่งที่มาของเงินทั้งงบประมาณปี 68 งบกลางเพิ่มเติมปี 67 รวมถึงเงินตามมาตรา 28 ยังอยู่ในกระบวนการ ดังนั้น ไม่มีปัญหาใด ๆ ในเรื่องงบประมาณ รัฐบาลยังพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ ขณะที่เดินตามกระบวนการและกรอบระยะเวลา เป็นไปตามกฏหมายทุกอย่าง

วงเงินที่จะใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่กำหนดไว้ 5 แสนล้านบาทนั้น ยืนยันว่า ยังเป็นกรอบวงเงินเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการ ทั้งงบประมาณ ปี 68 ที่กำลังพิจารณาอยู่ในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งยืนยันเดินหน้าต่อไปไม่มีปัญหาอะไร ส่วนงบกลางปี 67 เพิ่มเติม ก็จะเข้าสู่สภาวันที่ 17 ก.ค.นี้

ส่วนมีแผนสำรองหรือไม่หากคณะกรรมการกฤษฏีกาชี้ว่าแหล่งเงินที่มาใช้ในโครงการไม่ถูกต้อง นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เตรียมพร้อมไว้แล้ว มีออฟชั่น 2 ออฟชั่น 3 แต่เบื้องต้นเป็นการเดินตามออฟชั่น 1 ซึ่งไตรมาส 4 ประชาชนจะได้ใช้เงินตามที่กำหนด และทุกอย่างอยู่ในกระบวนการ ในความเป็นจริงเร็วกว่าในกระบวนการที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก แต่ขอรอแถลงความชัดเจน 24 ก.ค.ก่อน

ด้านความชัดเจนการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตซื้อสินค้านั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นสินค้าที่เป็นมือถือและอิเล็กทรอนิกมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกตัดออก แต่ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ เพราะมีความเชี่ยวชาญว่าสินค้าประเภทไหนที่มีลักษณะเงินไหลออกประเทศสูง ซึ่งจะมาสรุปในที่ประชุมในวันพุธนี้

นอกจากนี้ นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า คนในครอบครัวเดียวกัน สามารถรวมเงินไปซื้อสินค้าได้ เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของโครงการนี้

นายเผ่าภูมิ ยังกล่าวถึงกรณีที่ธนาคารโลกมองว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ตจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียง 0.5-1% เท่านั้นว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน การประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจจึงต้องดูให้หลากหลาย ในส่วนของกระทรวงการคลังก็ได้มีการประเมินตัวเลขต่าง ๆ ย่อมมีความหลากหลาย แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข แต่ก็จะรับข้อห่วงใยไปพิจารณา

ส่วนกรณีที่หากไม่ทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 -0.5% ซึ่งจะต้องแลกกันหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า มาตรการทางการเงินต้องทำหน้าที่ของตนเอง อย่าเอามาผูกกันในมิติดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ธปท. เคยผูกเรื่องมาแล้วครั้งหนึ่ง กรณีที่คาดการณ์ว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเกิดขึ้นในปีนี้ จึงขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอเพราะกลัวเงินเฟ้อ ซึ่งเคยทำเรื่องนี้มาแล้ว เมื่อนำมาผูกกันเช่นนี้ก็มีปัญหาทำให้ขึ้นดอกเบี้ย โดยที่ดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ออกในปีนี้ ท้ายสุดเงินเฟ้อไม่ได้ขึ้น จึงทำให้เกิดปัญหาและทำให้เห็นปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบันตกขอบ

อ่านเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook