ค่าเงินบาทวันนี้ 10 ก.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.39 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง

ค่าเงินบาทวันนี้ 10 ก.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.39 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง

ค่าเงินบาทวันนี้ 10 ก.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.39 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทวันนี้ 10 ก.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.39 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.35-36.55 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้าที่ระดับ 36.39 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.37-36.48 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าลงเกือบทดสอบโซนแนวต้าน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ตามการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากถ้อยแถลงในช่วงก่อนหน้า ซึ่งประธานเฟดยังคงย้ำว่า เฟดยังรอความชัดเจนของแนวโน้มเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันประธานเฟดก็มองเห็นถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น หากเฟดใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวนานเกินไป ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า ถ้อยแถลงของประธานเฟดไม่ได้มีความ Dovish มากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ในปีนี้ ราว 2 ครั้ง และมีโอกาสราว 76% ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน (จาก CME FedWatch Tool ล่าสุด) อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หลังราคาทองคำพลิกกลับมารีบาวด์ขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท

แม้ว่าถ้อยแถลงของประธานเฟดจะไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ทว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ โดยเฉพาะ Nvidia +2.5% ตามการปรับเป้าราคาขึ้นของนักวิเคราะห์ จากความหวังว่า ผลประกอบการของ Nvidia จะมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มอื่นๆ โดยรวมทรงตัว เพื่อรอลุ้นรายงานผลประกอบการ ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +0.14% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพียง +0.07%

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดยังคงรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ เพื่อให้มั่นใจว่า แนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงต่อเนื่องได้ จนทำให้เฟดสามารถทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ ตามที่ตลาดกำลังคาดหวังอยู่ ทำให้ เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ sideways แถวโซน 36.40-36.50 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อน อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนของเงินหยวนจีน (CNY) ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI ของจีน (ในช่วงราว 8.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวยังคงสะท้อนภาพการใช้จ่าย การบริโภคในจีนที่ยังคงซบเซา ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน กดดันให้เงินหยวนจีนมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเงินบาทและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ได้บ้าง ทั้งนี้ เงินบาทอาจไม่ได้อ่อนค่าไปมาก ตราบใดที่ ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องชัดเจน รวมถึงตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัว sideways หรือปรับตัวขึ้นต่อได้บ้าง ซึ่งจะช่วยชะลอแรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.35-36.55 บาทต่อดอลลาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook