ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท มี 3 กลุ่ม ที่เริ่มไม่พร้อมกัน

ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท มี 3 กลุ่ม ที่เริ่มไม่พร้อมกัน

ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท มี 3 กลุ่ม ที่เริ่มไม่พร้อมกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มี 3 กลุ่ม ที่เปิดลงทะเบียนไม่พร้อมกัน เช็กวันเริ่มขอรับสิทธิ์ได้ที่นี่

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต บนแอปฯ ทางรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 67 เป็นต้นไป โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนวันละ 1 ล้านคน เป็นเวลา 45 วัน

ส่วนกำหนดการลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน-โทรศัพท์มือถือ, กลุ่มร้านค้า และกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน-โทรศัพท์มือถือ ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้มีการประกาศวันลงทะเบียนของกลุ่มไร้สมาร์ทโฟน-โทรศัพท์มือถือ หากแบ่งรายละเอียดจะเป็นดังนี้

  • กลุ่มผู้ใช้สมาร์ตโฟน เริ่มลงทะเบียน 1 สิงหาคม 2567
  • กลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนรอบถัดไป ยังไม่มีการระบุวันที่
  • กลุ่มร้านค้า เปิดลงทะเบียนหลัง 1 สิงหาคม 2567 แต่ยังไม่ระบุวันที่

ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตภายในไตรมาส 4 ปี 2567

3 กลุ่มต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อขอรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือ

  • ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 67 เป็นต้นไป ทางแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ผ่านระบบ IOS และ Android

กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน-โทรศัพท์มือถือ

  • ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยใช้บัตรประชาชนยืนยันตัวตน ส่วนสถานที่ และวันเปิดลงทะเบียน ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

กลุ่มร้านค้า

  • ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เริ่ม 1 ส.ค. 67 โดยต้องเตรียมหลักฐานดังนี้
    • เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขนิติบุคคลของผู้ประกอบการ
    • หมายเลขโทรศัพท์
    • สถานที่ตั้งร้านค้า
    • รูปถ่ายร้านค้า

เปิดให้ลงทะเบียนได้ดังนี้

ธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาพาณิชย์ที่เข้าร่วม, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร, อบต. กับ อบจ. ประจำจังหวัด อีกช่องทางผ่านออนไลน์ แอปพลิเคชั่นทางรัฐ

คุณสมบัติร้านค้าที่สามารถถอนเงินสดจากโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ดังนี้

  1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax: VAT)
  2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT) เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร
  3. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax: CIT)

คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียน

  • อายุ 16 ปี จะต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 ก.ย. 67
  • เงินฝากกำหนดไม่เกิน 500,000 บาท นับยอดบัญชีเงินฝากถึงวันที่ 31 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยเงินฝากดังกล่าว ต้องเป็นเงินฝากสกุลเงินบาท ในธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐเท่านั้น ไม่นับรวมสลากออมทรัพย์
    • แม้จะเป็นเงินที่พ่อแม่ออมให้ลูกก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ เพราะเป็นผู้มีรายได้ อีกทั้งเกณฑ์เงินฝากในบัญชีระบุไว้ชัดเจนว่า หากเกิน 500,000 บาท ถูกตัดสิทธิ
  • รายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี วัดจากฐานข้อมูลเงินได้ของกรมสรรพากร ณ ปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธ.ค. 66 และนับรวมทุกรายได้ที่ยื่นในระบบภาษี (เงินเดือน, ค่าจ้าง, ค่างานฟรีแลนซ์, ค่ารับเหมา, ค่าเช่า, ดอกเบี้ย ปันผล, รายได้ลิขสิทธิ์ต่าง ๆ)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook