ค่าเงินบาทวันนี้ 26 ก.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.22 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย
ค่าเงินบาทวันนี้ 26 ก.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.22 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.14 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.35 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 36.22 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.14 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 36.12-36.28 บาทต่อดอลลาร์) ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังคาดการณ์ครั้งแรกของอัตราการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ออกมา +2.8% จากไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดประเมินไว้พอสมควร นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังได้กดดันให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง สู่โซน 2,350-2,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (สอดคล้องกับโซนแนวรับที่เราได้ประเมินไว้ในต้นสัปดาห์) ส่งผลใหค่าเงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม จากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับตัวผสมผสานอย่างเห็นได้ชัด โดยบรรดาหุ้นเทคฯ ยังคงเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่อง จากความผิดหวังผลประกอบการของหุ้นเทคฯ ใหญ่ในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่มพลังงาน (Exxon Mobil +2.1%) ก็สามารถปรับตัวขึ้นได้ จากรายงาน GDP ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ ซึ่งออกมาดีกว่าคาด และช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นราว +2% ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ยังคงลดลง -0.93% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.51%
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติมบ้าง หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ธีม US Exceptionalism รวมถึงภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด (Risk-Off) อาจยังคงช่วยหนุนเงินดอลลาร์ในช่วงนี้ ส่วนโฟลว์ธุรกรรมลดสถานะ Short JPY (Short JPY = มองเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่า)ของบรรดาผู้เล่นในตลาดก็อาจลดลงไปพอสมควรแล้ว ทำให้ค่าเงินเยนก็อาจไม่ได้แข็งค่าขึ้นไปได้มากนักในช่วงนี้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์นี้ รวมถึงรอลุ้น ผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลักในสัปดาห์หน้า ที่จะเริ่มต้นด้วย BOJ ในวันพุธ ต่อด้วย เฟด และ BOE ในวันพฤหัสฯ นอกจากนี้ บรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ก็อาจส่งผลกระทบต่อฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ทำให้ผู้เล่นต่างชาติอาจยังคงทยอยขายสินทรัพย์ไทยโดยเฉพาะหุ้นได้บ้าง
อนึ่ง แม้ว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่ แต่เราก็มองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจติดอยู่ในโซน 36.30-36.35 บาทต่อดอลลาร์ (แถวเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน) แต่หากเงินบาทผันผวนอ่อนค่ากว่าคาด ก็อาจอ่อนค่าต่อได้ถึงโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ พร้อมกันนั้น เรายังคงประเมินว่า การแข็งค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัดแถวโซน 36 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าบรรยากาศในตลาดการเงินจะกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงชัดเจน รวมถึง ผู้เล่นในตลาดเริ่มมั่นในมากขึ้นว่า เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้ราว 3 ครั้งในปีนี้ ถึงจะเห็นการแข็งค่าของเงินบาทที่ต่อเนื่อง และอาจหลุดโซน 36 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้
สำหรับในคืนนี้นั้น เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อย่าง อัตราเงินเฟ้อ PCE ตั้งแต่ช่วงเวลาราว 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.35 บาทต่อดอลลาร์