ค่าเงินบาทวันนี้ 1 ส.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น

ค่าเงินบาทวันนี้ 1 ส.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น

ค่าเงินบาทวันนี้ 1 ส.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ค่าเงินบาทวันนี้ 1 ส.ค. 67 เปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.63 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.40-35.70 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOE และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.63 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 35.48-35.69 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง พร้อมกับการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ตามการส่งสัญญาณของประธานเฟดในช่วง Press Conference ที่ระบุว่า การลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายนนั้น อาจเกิดขึ้นได้ หากแนวโน้มการชะลอลงของทั้งอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา ยังคงดำเนินต่อไป โดยมุมมองดังกล่าวของประธานเฟดยังคงทำให้ ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า เฟดมีโอกาสราว 78% ที่จะสามารถลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งในปีนี้ (จาก CME FedWatch Tool ล่าสุด) นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำ (XAUUSD) ได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทดสอบโซนแนวต้านที่เราประเมินไว้ต้นสัปดาห์แถว 2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามจังหวะการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ (นอกจากนี้ ราคาทองคำก็ยังพอได้แรงหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่กลับมาร้อนแรงขึ้นในช่วงนี้)

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) หลังบรรดาหุ้นธีม AI/Semiconductor ต่างปรับตัวขึ้น นำโดย Nvidia +12.8% ซึ่งได้อานิสงส์จากการรายงานคาดการณ์ยอดขายชิป AI ของ AMD +4.4% (คู่แข่ง Nvidia) ที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากผลการประชุมเฟดล่าสุด ที่ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อว่าเฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 3 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq พุ่งขึ้น +2.64%% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +1.58%

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นมีกำลังมากกว่าที่เราประเมินไว้มาก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการทยอยปิดสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) หรือ Stop Loss ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน หลังเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ที่เผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลังผลการประชุม BOJ มีความ Hawkish มากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ (BOJ ขึ้นดอกเบี้ย และลดปริมาณการซื้อบอนด์ พร้อมส่งสัญญาณ อาจขึ้นดอกเบี้ยได้เพิ่มเติม) นอกจากนี้ ผลการประชุมเฟดและถ้อยแถลงของประธานเฟดล่าสุด ก็ยังส่งสัญญาณว่า เฟดมีโอกาสที่จะเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนกันยายน ทำให้ เงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ อาจเริ่มชะลอลงบ้าง หลังตลาดได้รับรู้และคาดหวัง แนวโน้มการลดดอกเบี้ยราว 3 ครั้งของเฟดในปีนี้ ไปมากแล้ว และหากการประชุม BOE ในวันนี้ มีการลดดอกเบี้ยจริงตามคาด อีกทั้ง BOE ก็ส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ก็อาจกดดันให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ผันผวนอ่อนค่าลง และช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ได้บ้าง ทำให้เราประเมินว่า การแข็งค่าของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลงแถวโซนแนวรับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ แต่หากเงินบาทแข็งค่าหลุดโซนดังกล่าวชัดเจน ก็อาจแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับ 35.30 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก ซึ่งเรามองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงนี้ ในเชิงเทคนิคัลอาจทำให้เงินบาท (USDTHB) เข้าสู่โซน RSI Oversold ทำให้มีโอกาสที่อาจเห็นการกลับมาอ่อนค่าลงได้บ้างของเงินบาทในระยะสั้น หากตลาดรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม

อนึ่ง จากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เราประเมินใหม่ว่า แนวต้านของเงินบาทอาจขยับลงมาแถวโซน 35.85 บาทต่อดอลลาร์ และมีโซนแนวต้านถัดไปแถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์

เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวนไปตาม การเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท อย่าง มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.40-35.70 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOE และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook