สรรพากร รู้ได้ยังไงว่า มีรายได้เท่าไหร่

สรรพากร รู้ได้ยังไงว่า มีรายได้เท่าไหร่

สรรพากร รู้ได้ยังไงว่า มีรายได้เท่าไหร่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรรพากร รู้ได้อย่างไรว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ เปิดช่องทางที่กรมสรรพากรใช้ตรวจสอบรายได้

"ถ้าไม่ยื่นภาษี สรรพากรก็ไม่รู้รายได้หรอก" ใครที่คิดแบบนี้ ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะกรมสรรพากรไม่ได้รับรู้รายได้ หรือเงินได้ของเราแค่ช่องทางการยื่นภาษีเท่านั้น แต่สรรพากรมี วิธีตรวจสอบรายได้เราหลายวิธีด้วยกัน เราจึงขอหยิบยกบทความดีๆ จากเว็บไซต์ inflowaccount มีแชร์ให้ผู้อ่านได้ทราบกัน

กรมสรรพากร รู้ได้ยังไงว่า มีรายได้เท่าไหร่?

1. มีเงินโอนเข้าบัญชีหลายครั้ง และเป็นเงินจำนวนมาก

การฝาก หรือโอนเงินเข้าบัญชี ผ่านสมาร์ทโฟน บัตรเครดิต ผู้ให้บริการด้านการเงิน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่รายงานธุรกรรมให้กรมสรรพากร โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

  • มีเงินเข้าบัญชี 3,000 ครั้งต่อปี ไม่ดูจำนวนเงินว่าแต่ละครั้งมีมูลค่าเท่าไหร่?
  • มีเงินเข้าบัญชี 400 ครั้งต่อปี และจำนวนเงิน (นับเฉพาะฝั่งเงินรับฝากเข้า) รวมเกิน 2 ล้านบาท

โดยนับรวมเป็นรายปี ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. ของปีนั้นๆ ซึ่งกรมสรรพากร จะรับรู้ข้อมูลรายได้ของผู้มีเงินได้ แต่ยังไม่สามารถนำมาเก็บภาษี ต้องเอไปร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ด้วยว่าถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นภาษี และเสียภาษีด้วยหรือเปล่า

2. ข้อมูลการรับเงิน (ภาษีหัก ณ ที่จ่ายใบกำกับภาษี)

ได้รับเงินสดโดยไม่ผ่านธนาคาร แต่ผู้จ้างเป็นนิติบุคคลได้ทำการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ ผู้ประกอบการต้องนำส่งเงินภาษีที่หักให้กรมสรรพากร รวมถึงแจ้งข้อมูลผู้ได้รับเงิน คือ ชื่อ เลขบัตรประชาชนในแบบนำส่งภาษีที่หักไว้ดังกล่าวด้วย

ถ้าบริษัทผู้จ่ายเงินถูกสรรพากรตรวจสอบเอกสาร ผู้ประกอบการต้องส่งรายการบันทึกค่าใช้จ่ายของบริษัทให้กรมสรรพากร ซึ่งบันทึกนั้นจะต้องระบุค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้โดยละเอียด ส่งพร้อมเอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน

ฉะนั้น แม้เราจะรับเป็นเงินสด แต่กรมสรรพากรก็ยังมีโอกาสที่จะเห็นข้อมูลรายได้ของผู้มีรายได้อยู่ดี

3. รับรู้รายได้ผ่านช่องทาง www.rd.go.th

เว็บไซต์ www.rd.go.th เป็นช่องทางสืบค้นข้อมูลรายได้ โดยเปิดเมนู "การแจ้งเบาะแส/ข้อมูลแหล่งภาษี" ขึ้น เพื่อให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบกิจการหรือธุรกิจที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง

4. สุ่มตรวจ

เป็นวิธีที่กรมสรรพากรสุ่มจากหน้าเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Facebook ที่มีการโพสต์โชว์เงินโอนเข้ารายได้จากการขายสินค้าจำนวนมาก หรือไลฟ์สดขายของ กรมสรรพากรจะสุ่มตรวจว่ามีการยื่นแบบฯ เสียภาษีหรือไม่ ถ้าไม่มี หรือไม่เสียภาษีเลยอาจถูกเรียกพบได้

5. ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ หรือ Web Scraping

กรมสรรพากรนำเทคโนโลยีดึงข้อมูลจากเว็บเพจต่างๆ หรือ Web Scraping เข้ามาช่วยตรวจสอบกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ ทั้งในรูปแบบที่ค้าขายปกติ และรูปแบบไลฟ์สดเพื่อขายสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น สรรพากรจะดึงข้อมูล ราคา และจำนวนสินค้าที่ขายได้ตามเว็บ e-commerce ทั้งหลาย เช่น Shopee, Lazada

หรือรู้ข้อมูลของผู้จ่ายเงินได้ให้เรา เช่น เราขายของผ่านเว็บ e-commerce เช่น Shopee, Lazada ทางเว็บ e-commerce จะหักค่าบริการในอัตราที่กำหนดจากยอดขายของเรา เช่น 20% หรือ 30% ของยอดขาย พร้อมกันนั้นทางเว็บ e-commerce ก็จะส่งใบกำกับภาษีให้กับเราและส่งให้สรรพากรด้วย

6. เข้าร่วมโครงการของรัฐ

โครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น ชิมช้อปใช้, ช้อปดีมีคืน, เราชนะ รวมถึงคนละครึ่ง รายได้ และยอดขายของผู้ประกอบการร้านค้าจะถูกส่งให้กับกรมสรรพากร

7. พนักงานประจำ

พนักงานประจำที่บริษัทจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร นอกจากผู้มีรายได้จะต้องเป็นคนนำข้อมูลจากใบ 50 ทวิ (หนังสือรับรองเงินได้หัก ณ ที่จ่าย) ซึ่งเป็นใบแจ้งรายได้ทั้งปีที่ทางบริษัทออกให้ไปยื่นภาษีเงินได้แล้ว ทางบริษัทก็จะมีเอกสารชี้แจงเงินได้ของเราส่งทางกรมสรรพากรด้วยอีกทางหนึ่ง (ภงด.1, ภงด.1ก) จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่กรมสรรพากรตรวจสอบรายได้ของเราได้

8. ใช้ระบบ Big Data & Data Analytics

กรมสรรพากรใช้ระบบ Big Data & Data Analytics คัดกรองว่าผู้ประกอบการใดจัดอยู่ในกลุ่มเลี่ยงภาษี และกลุ่มใดจัดอยู่ในกลุ่มดี หรือตัวอย่างของการใช้ระบบ Data Analytic เช่น สรรพากรเชื่อมข้อมูลกับการไฟฟ้า การประปา ถ้าพบการใช้ไฟฟ้ากับการใช้น้ำประปาของเราใกล้เคียงกับคนที่ทำธุรกิจแบบเดียวกับเรา แต่เขาแจ้งรายได้สูงกว่า สรรพากรก็อาจสงสัยว่าเราแจ้งรายได้ไม่ครบถ้วนได้

ดังนั้น กรมสรรพากร รับรู้รายได้ของคนไทยได้หลายช่องทาง หากคิดว่าจะไม่ยื่นภาษีเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน ถ้าเวลาผ่านไปแล้วบังเอิญกรมสรรพากรเข้ามาตรวจสอบ (สามารถตรวจสอบย้อยหลังได้นานถึง 10 ปี) นอกจากจะต้องจ่ายภาษีแล้ว อาจจะต้องจ่ายค่าปรับที่ทำให้เราต้องเสียภาษีมากกว่าค่าภาษีไปอีกบานเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook