วิธีจ่ายหนี้ กยศ.-ขั้นตอนจ่ายผ่านการหักเงินเดือน เช็กที่นี่

วิธีจ่ายหนี้ กยศ.-ขั้นตอนจ่ายผ่านการหักเงินเดือน เช็กที่นี่

วิธีจ่ายหนี้ กยศ.-ขั้นตอนจ่ายผ่านการหักเงินเดือน เช็กที่นี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เช็กวิธีจ่ายหนี้ กยศ. และช่องทางการจ่ายหนี้ พร้อมเผยขั้นตอนการชำระหนี้ผ่านการหักเงินเดือนที่ลูกหนี้ กยศ. ควรรู้

การแก้หนี้ จ่ายหนี้ กยศ. โดยใช้การคำนวณตาม พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 66 โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม และอาจทำให้หนี้ลดลงราว 50% โดยลูกหนี้ กยศ. ทุกรายจะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายใหม่ ที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา สำหรับช่องทาง และวิธีการชำระหนี้ กยศ. รวมถึงขั้นตอนการจ่ายหนี้ผ่านการหักเงินเดือนมีดังนี้

วิธีจ่ายหนี้ กยศ.วิธีจ่ายหนี้ กยศ.

ช่องทางและวิธีการชำระหนี้ กยศ.

กยศ.จะมีหนังสือแจ้งภาระหนี้ครั้งแรกในปีที่ผู้กู้ยืมครบกำหนดชำระหนี้ โดยมีรายละเอียดของจำนวนเงินที่ต้องชำระรายเดือนหรือรายปีให้ผู้กู้ยืมทราบ หากผู้กู้ยืมไม่ได้หนังสือแจ้งภาระหนี้สามารถตรวจสอบยอดหนี้ที่ต้องชำระด้วยตนเองได้ทางแอปพลิเคชัน กยศ. Connect และเว็บไซต์ของ กยศ. นำเงินไปชำระได้ตามช่องทาง ดังนี้

ธนาคารกรุงไทย

  1. หักผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
  2. หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร (สามารถชำระเงินได้ 2 วิธี)
    • ชำระด้วย Barcode
    • แจ้งหมายเลขบัตรประชาชน
  3. ตู้เอทีเอ็ม
  4. แอปพลิเคชั่น Krungthai Next และแอปพลิเคชัน เป๋าตัง
  • ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
  • ธนาคารไทยพาณิชย์
  • ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์
  • ธนาคารกสิกรไทย
  • ธนาคารทหารไทยธนชาต
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  • ธนาคารกรุงเทพ
  • ไปรษณีย์ไทย
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส (ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น) ยื่นบัตรประชาชน หรือแจ้งเลขบัตรประชาชน 13 หลัก

1

การชำระหนี้ด้วย QR Code ผ่าน Mobile Banking

  1. เปิดและบันทึกภาพ QR Code จากแอปพลิเคชัน กยศ. Connect
  2. เปิดแอปพลิเคชันของทุกธนาคารที่มี Mobile Banking กด สแกนจ่าย > เลือกภาพ QR Code ที่บันทึกไว้ > ชำระเงิน

2

การชำระด้วยรหัสการชำระเงิน Barcode

แสดง Barcode ที่อยู่ในหนังสือแจ้งภาระหนี้ หรือพิมพ์จากระบบตรวจสอบยอดหนี้ทางเว็บไซต์ https://wsd.dsl.studentloan.or.th หรือแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” ใช้เพื่อชำระเงินผ่านหน่วยรับชำระ ดังต่อไปนี้

  • ไปรษณีย์ไทย
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส (ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น) โดยยื่นบัตรประชาชน หรือแจ้งเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
  • ธนาคารไทยพาณิชย์
  • ธนาคารทหารไทยธนชาต
  • ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  • ธนาคารกสิกรไทย
  • ธนาคารกรุงเทพ

4

กรณีชำระด้วยเช็ค ตั๋วแลกเงิน แคชเชียร์เช็ค

ให้สั่งจ่าย “กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา บัญชีรับชำระหนี้ ชื่อ-นามสกุลผู้กู้ยืมเงิน หมายเลขบัตรประชาชนผู้กู้ยืมเงิน”

  1. ก่อนการนำฝากเช็ค ตั๋วแลกเงิน แคชเชียร์เช็คทุกครั้ง ผู้กู้ยืมเงินจะต้องดาวน์โหลด QR Code หรือ Barcode ผ่าน Application “กยศ. Connect” หรือจากระบบ DSL … คลิก โดยระบุจำนวนเงินที่จะชำระให้ตรงกับยอดเงินหน้าเช็ค ตั๋วแลกเงิน แคชเชียร์เช็ค พร้อมบันทึกภาพ หรือจัดพิมพ์ QR Code หรือ Barcode ภายในวันที่ไปชำระหนี้เท่านั้น
  2. ผู้กู้ยืมเงินชำระหนี้ด้วยเช็ค ตั๋วแลกเงิน แคชเชียร์เช็ค ที่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ก่อนเวลา 12.00 น. โดยแสดงภาพ QR Code หรือ Barcode
  3. เมื่อธนาคารกรุงไทยรับชำระหนี้จากผู้กู้ยืมเงินแล้ว ระบบจะดำเนินการลดยอดหนี้ให้ผู้กู้ยืมเงินโดยอัตโนมัติภายใน 3-5 วันทำการ (เมื่อวันที่เช็ค ตั๋วแลกเงิน แคชเชียร์เช็คมีผลเรียบร้อยแล้ว) หมายเหตุ

*กรณีชำระหนี้เป็นเช็คที่มิใช่เช็คของธนาคารกรุงไทย อาจมีการเคลียร์ริ่งเช็คต่างธนาคาร ทำให้ยอดหนี้ที่ชำระไม่ครบถ้วน

5

การจ่ายหนี้ กยศ. โดยการหักเงินเดือน ผู้กู้ยืมที่สังกัดองค์กรนายจ้างภาครัฐและเอกชน

ผู้กู้ยืมมีหน้าที่

  • แจ้งสถานะการเป็นผู้กู้ยืมเงินให้นายจ้างทราบ ภายใน 30 วัน
  • ให้นายจ้างหักเงินเดือนตามจำนวนที่ กยศ. แจ้งเพื่อชำระเงินคืนกองทุน

ขั้นตอนการแจ้งหักเงินเดือน

  1. กยศ.ตรวจสอบข้อมูลผู้กู้ยืมจากผู้ถือครองข้อมูล ประกันสังคม/กรมบัญชีกลาง/กรมสรรพากร
  2. กยศ.ส่งหนังสือแจ้งผู้กู้ยืมก่อนที่นายจ้างจะหักเงินเดือน
  3. กยศ.ส่งหนังสือแจ้งนายจ้างให้หักเงินเดือนผู้กู้ยืม *การหักเงินเดือนจะเริ่มต่อเมื่อกองทุนได้แจ้งต่อนายจ้างอย่างเป็นทางการเท่านั้น
  4. นายจ้างหักเงินเดือนนำส่งกรมสรรพากร

ลำดับการหักเงินเดือน

  1. หักภาษี ณ ที่จ่าย
  2. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/ประกันสังคมกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
  3. เงินกู้ยืมกองทุน กยศ.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook