จดทะเบียนสมรส เอกสารสำคัญทางกฎหมาย ที่คู่ชีวิตควรรู้!

จดทะเบียนสมรส เอกสารสำคัญทางกฎหมาย ที่คู่ชีวิตควรรู้!

จดทะเบียนสมรส เอกสารสำคัญทางกฎหมาย ที่คู่ชีวิตควรรู้!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จดทะเบียนสมรส เปิดข้อดี-ข้อเสีย ที่ควรรู้ พร้อมเผยความสำคัญของการจดทะเบียนสมรสที่เป็นได้มากถึงมากกว่าแค่กระดาษแผ่นเดียว

ทะเบียนสมรส คือ เอกสารทางกฎหมายที่ยืนยันความสัมพันธ์ของคู่แต่งงาน ใช้เป็นหลักฐานยืนยันสิทธิ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างสามี – ภรรยา เช่น การรับรองบุตร การแบ่งสินสมรส รวมไปถึงการฟ้องหย่า ให้สามารถได้สิทธิ์อย่างถูกกฎหมายและเป็นไปตามที่ควรได้รับ

แต่ในปัจจุบันกลับพบว่ามีคู่รักหลายคู่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส อาจเป็นเพราะความเชื่อส่วนบุคคล เหตุผลเรื่องความคล่องตัวในการทำธุรกิจหรือธุรกรรมต่างๆ กฎหมายรองรับคู่รักเพศทางเลือกที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ หรือแม้แต่การไม่เห็นความสำคัญของการจดทะเบียนสมรส แต่สิ่งที่คู่รักหลายคู่มักมองข้ามไป คือ ผลทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่จดทะเบียนสมรส

นายพีระพัฒน์ เหรียญประยูร Managing Director, Wealth Planning and Non-Capital Market Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ให้บริการบริหารทรัพย์สินครอบครัวมองว่าการไม่จดทะเบียนสมรส มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ไม่จดทะเบียนสมรส ข้อดี

  • มีความคล่องตัวในการทำนิติกรรม ลดความเสี่ยงเรื่องหนี้สินร่วม

ไม่จดทะเบียนสมรส ข้อเสีย

  • ขาดการรับรองทางกฎหมายในด้านต่างๆ เช่น
  • สิทธิในการได้รับสวัสดิการตามกฎหมายในฐานะคู่สมรส
  • สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้และยกเว้นภาษีการให้บางส่วน
  • สิทธิในการรับมรดกและยกเว้นภาษีการรับมรดกในฐานะคู่สมรส
  • การฟ้องร้องคดีและเรียกค่าเสียหายแทนกัน หรือการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยหนัก หรือการจากไปของอีกฝ่ายหนึ่ง

ดังนั้น ก่อนที่คู่รักจะตัดสินใจว่าจะจดทะเบียนสมรสหรือไม่ ควรพิจารณาให้รอบคอบและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น ทนายความ หรือที่ปรึกษาครอบครัว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการ

เมื่อคู่ชีวิตไม่ได้จดทะเบียนสมรส เกิดเจ็บป่วย ใครมีสิทธิตัดสินใจเรื่องการรักษา?

ในกรณีที่คู่ชีวิตป่วยหนัก และไม่สามารถตัดสินใจเรื่องการรักษาได้เอง บุคคลที่มีสิทธิในการรับรู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและลงนามยินยอมให้ทำการรักษา โดยทั่วไปจะเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรส ตามกฎหมาย

ดังนั้น หากคู่ชีวิตไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็จะไม่มีอำนาจในการตัดสินใจแทนในเรื่องนี้ สิทธิดังกล่าวจะตกเป็นของญาติที่ใกล้ชิดที่สุด เช่น บุตรที่บรรลุนิติภาวะ บิดา มารดา หรือพี่น้องที่บรรลุนิติภาวะ โดยจะพิจารณาจากผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่สุดและมีความสามารถในการตัดสินใจ ซึ่งอาจส่งผลให้การรักษาพยาบาลล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามที่คู่ชีวิตต้องการ หรืออาจเกิดความขัดแย้งระหว่างคู่ชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวหากมีความเห็นไม่ตรงกัน

นอกจาก คู่ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แม้จะมีสิทธิในการเข้าเยี่ยมผู้ป่วย แต่อาจถูกจำกัดในบางสถานการณ์ เช่น หากญาติตามกฎหมายของผู้ป่วยไม่ยินยอมให้เข้าเยี่ย โรงพยาบาล มักพิจารณาความเห็นของญาติเหล่านั้น ซึ่งคู่รักของผู้ป่วยต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์กับผู้ป่วยและความจำเป็น โรงพยาบาลจึงอาจพิจารณาอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ เป็นต้น

จากไปแล้วใครจะดูแล? ปัญหาทรัพย์สินของคู่รักที่ไม่ได้จดทะเบียน

ในกรณีที่คู่ชีวิตเสียชีวิต หากไม่ได้จดทะเบียนสมรส หรือทำพินัยกรรมระบุไว้ ตามกฎหมายไทยทรัพย์มรดกจะตกเป็นของทายาทโดยธรรม เช่น บุตร บิดามารดา พี่น้อง ตามลำดับความใกล้ชิด โดยคู่ชีวิต ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสจะไม่มีสิทธิรับมรดกในฐานะคู่สมรส แม้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและสร้างทรัพย์สินมาด้วยกันก็ตาม

ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อาจพิจารณาจดทะเบียนสมรส ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ง่ายและชัดเจนที่สุด เนื่องจากการจดทะเบียนสมรส จะทำให้คู่ชีวิตมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย

สำหรับคู่รักที่ไม่ประสงค์จะจดทะเบียนสมรส

หากคู่ไหนไม่ต้องการจดทะเบียนสมรส หรืออยู่ระหว่างรอกฎหมายรองรับการสมรสของเพศเดียวกันใช้บังคับ อาจพิจารณาดำเนินการด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การทำข้อตกลงเรื่องทรัพย์สินเพื่อเป็นหลักฐานแสดงเจตนาในการจัดการทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย การทำพินัยกรรมเพื่อระบุความต้องการที่จะมอบทรัพย์สินให้แก่คู่ชีวิต การทำพินัยกรรมชีวิต (Living Will) กำหนดบุคคลที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องการรักษาพยาบาล หรือหากคู่ไหนตัดสินใจจะจดทะเบียนสมรสกัน ก็สามารถทำสัญญาก่อนสมรสเพื่อลดความกังวลเรื่องทรัพย์สินระหว่างกันก่อนจดทะเบียนสมรสได้ ทั้งนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนและจัดการเรื่องทรัพย์สินและสิทธิต่างๆ ให้เหมาะสมก่อนตัดสินใจ

"การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของคู่รักโดยไม่จดทะเบียนสมรส อาจนำมาซึ่งปัญหาทางกฎหมายที่คาดไม่ถึงได้ รวมทั้งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งและสูญเสียตามมา ดังนั้น ก่อนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต เพื่อให้ชีวิตคู่มีความสุขและราบรื่น" นายพีระพัฒน์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook