เฟดลดดอกเบี้ย 0.50% ครั้งแรกในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19
เฟดลดดอกเบี้ย 0.50% ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ
เว็บไซต์ จส.100 รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมรอบนี้ โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติ 11 ต่อ 1 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% มาที่ระดับ 4.75-5.00% เป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 หรือนับตั้งแต่ปี 2563
การตัดสินใจของเฟด จะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ให้ผู้บริโภคและธุรกิจกู้ยืม ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสำหรับทุกอย่างตั้งแต่สินเชื่อที่อยู่อาศัยไปจนถึงบัตรเครดิตลดลง
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เปิดเผยหลังการประชุมว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานที่อยู่ในระดับที่ยั่งยืนมากขึ้น ทำให้ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับนโยบายของเราใหม่ให้เหมาะสม
คณะกรรมการกำหนดอัตราดอกเบี้ย มีความมั่นใจมากขึ้น ว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวไปสู่เป้าหมายระยะยาวที่ 2%
เฟด มีอำนาจหน้าที่ 2 ประการจากรัฐสภาในการดำเนินการอย่างเป็นอิสระเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงาน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การตัดสินใจของเฟด น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนางกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ซึ่งพยายามจะเน้นย้ำถึงสถิติเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการแข่งขันกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่ชิงจากพรรครีพับลิกัน
อำนาจหน้าที่ของเฟด ทำให้เฟดมีอิสระในการกำหนดนโยบายการเงินโดยอิงตามข้อมูลเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่การตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลทางการเมือง เนื่องจากเงินเฟ้อและค่าครองชีพมีความสำคัญต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯ ชาวอเมริกันกล่าวเสมอมาว่าทั้งสองประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญก่อนการเลือกตั้ง นายทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์นายพาวเวลล์ ที่เขาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นคนแรกหลายครั้ง และแนะนำว่าการตัดสินใจของนายพาวเวลล์เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งเฟด ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างหนักแน่น