คลังแจงประกาศผลลงทะเบียนเงินดิจิทัล เดือน ต.ค. นี้

คลังแจงประกาศผลลงทะเบียนเงินดิจิทัล เดือน ต.ค. นี้

คลังแจงประกาศผลลงทะเบียนเงินดิจิทัล เดือน ต.ค. นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท คลังเผย เดือน ต.ค. นี้ ประกาศผลลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ระบบจ่ายเงินเลื่อนใช้หลังปีใหม่

เว็บไซต์ thebangkokinsight รายงานว่า ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดถึงเรื่องโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินใดให้กลุ่มเปราะบาง โดยถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงแทน

น.ส.ศิริกัญญา ถามถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ ที่ตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลไม่แจ้งรายละเอียดที่ชัดเจนกับผู้ได้รับสิทธิทำให้เกิดความยุ่งยากและสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน การลงทะเบียนในกลุ่มของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการก็ยังไม่มีความชัดเจน

“ขอให้ตอบชัดๆ ว่า จะแจกเมื่อไร กี่ครั้ง กี่คน และกี่บาท การเลื่อนครั้งนี้จะเลื่อนถึงเมื่อไร หากดูสถานการณ์การชี้วัดตัวไหนอีก ขอให้บอกให้ชัด ไม่ให้ประชาชนเกิดความหวังลมๆ แล้งๆ เป็นคนมีสิทธิ กลุ่มเปราะบางและไม่เปราะบาง รวม 40 ล้านคน แต่งบประมาณขณะนี้ มี 3.4 แสนล้านบาทเท่านั้น” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ เหตุผลที่แจ้งรายละเอียดล่าช้า เพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายที่ชัดเจน ส่วนการผูกพร้อมเพย์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนต้องขออภัย ซึ่งการผูกพร้อมเพย์ผู้พิการที่ได้รับเบี้ยพิการรายเดือน และมีกระบวนการโอนเงินผ่านช่องทางที่สมบูรณ์ ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กว่า 13.5 ล้านราย มีผู้ได้สิทธิซ้ำผู้พิการ 1.1 ล้านราย โดยมี 1 ล้านรายที่ไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ซึ่งรัฐบาลจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ดีมากขึ้น

ส่วนโครงการแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 นายจุลพันธ์ ระบุ ยืนยันทำดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเป็นประโยชน์ในการวางโครงสร้างพื้นฐานของดิจิทัลของรัฐ ส่วนข้อท้วงติงต่อการผูกพันงบประมาณข้ามปี รัฐบาลมั่นใจว่าสามารถทำได้ แต่ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาถูกร้องเรียนเกิดขึ้นเนื่องจากในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นความเสี่ยงของรัฐบาลเท่านั้น แต่กระทบต่อปากท้องของประชาชน เพราะความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใดๆ สังคมไม่มั่นใจในการลงทุน การใช้สอย เป็นผลเชิงลบของระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้วิธีนี้ขจัดข้อสงสัยของฝ่ายค้านและสังคม ดังนั้นเชื่อมั่นให้ระบบเศรษฐกิจไทยเดินหน้าเข้มแข็ง

นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ ยังตอบคำถามถึงความชัดเจนในการลงทะเบียนเงินดิจิทัลของเฟส 2 ว่า มีงบอยู่ที่ราว 1.87 แสนล้านบาท มีจำนวนผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 36 ล้านคน แต่ยังไม่ได้คัดกรอง ต้องรอกระบวนการ 2-3 อย่าง โดยกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนมีราว 4 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง ดังนั้น ตัวเลขที่ตรวจสอบแล้วจะเป็นตัวเลขที่ชัดเจน งบที่มีอยุ่หากขาดอีกไม่มาก จะดำเนินการเพื่อจ่ายทีเดียว หากไม่พออาจจะแบ่งยอด

นายจุลพันธ์ ระบุ เดิมกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งเดียวก้อนใหญ่ เพื่อให้เป็นแรงกระแทกสูง เมื่อโครงการปรับเป็นระลอก ต้องรักษาแรงเหวี่ยงของเศรษฐกิจให้เดินหน้าเข้มแข็ง ดังนั้น ต้องรอความชัดเจนของการลงทะเบียน เบื้องต้นจะอยู่ในกรอบเดือน ต.ค. 67

สำหรับการประกาศผู้ได้รับสิทธิว่า ระบบชำระเงิน คือ พีจีเอ ตนรับทราบแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องในขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้ ตามที่มีคนบอกว่ามีการล็อกคนไว้แล้ว แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงเห็นว่าไม่มีการล็อก และโปร่งใส การเปิดประมูลนั้นเลื่อนออกไป อย่างไรก็ดีการเชื่อมวอลเล็ตกลางต้องการเชื่อมธนาคารของรัฐ แต่ต้องเลื่อนเพราะเปลี่ยนรัฐบาล

“ตั้งเป้าเสร็จปลายปี แต่ต้องเลื่อนไปหลังปีใหม่ ยอมรับความจริงในกระบวนการของสภาฯ เลือกนายกฯ ตั้งกรรมการชุดใหม่ กระทบพัฒนาระบบในบางมิติ แต่การพัฒนาซอฟต์แวร์ของรัฐสามารถเดินหน้าต่อไป ซึ่งการพัฒนาระบบชำระเงินเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม จะเสร็จในเร็ววัน แต่ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นากยฯ ให้ข้อคิดไว้ คือ ต้องเพิ่มระยะเวลาทดสอบ ตรวจสอบให้ละเอียดว่าระบบเพย์เมนต์กลางไม่มีปัญหาด้านใดๆ” นายจุลพันธ์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook