เงิน 10,000 บาท ได้ไม่ครบถูกหักหนี้อัตโนมัติ คลังคาดผู้รับสิทธิ์เข้าใจผิดเอง

เงิน 10,000 บาท ได้ไม่ครบถูกหักหนี้อัตโนมัติ คลังคาดผู้รับสิทธิ์เข้าใจผิดเอง

เงิน 10,000 บาท ได้ไม่ครบถูกหักหนี้อัตโนมัติ คลังคาดผู้รับสิทธิ์เข้าใจผิดเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เงิน 10,000 บาท บางคนได้เงินไม่ครบ ถูกหักหนี้อัตโนมัติ คลังคาดผู้รับสิทธิ์น่าจะเข้าใจผิดเอง เหตุผูกรพร้อมเพย์กับธนาคารอื่นโดยไม่รู้ตัว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุถึงการแจกเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการจำนวน 14.55 ล้านคน โดยมีจำนวนที่โอนไม่ผ่าน หรือตกค้าง 380,000 คน ยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงิน เพราะจะมีการโอนเงินซ้ำ 3 รอบ คือ รอบวันที่ 22 ของทุกเดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 67 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้พิการมีจำนวนค้างอยู่ 8,829 คน ติดปัญหาเรื่องบัตร และมีบางส่วนสิทธิ์ซ้ำกับกลุ่มเปราะบางราว 93,000 คน

กรมบัญชีกลางได้แก้ไขบางส่วน เพราะบางคนมีทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีบัตรผู้พิการจึงมีการเปลี่ยนช่องทางการโอนเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเงินก็ถึงเรียบร้อย และมีผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการอีก 372,458 ราย เป็นกลุ่มที่ไม่มีบัญชีหรือบัญชีปิดไปแล้วทางธนาคารถือว่าบัญชีไม่มีการใช้เงินกว่า 20,000 ราย และยังมีผู้ที่ไม่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ ทำให้ไม่สามารถโอนเงินให้ได้

ส่วนกรณีที่มีผู้มีสิทธิ์รับเงิน 10,000 บาท ผ่านการโอนเงินเข้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แต่ถูกหักหนี้ออกจากบัญชีโดยอัตโนมัตินั้น นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ไม่มีการหักบัญชีทันที เป็นความเข้าใจผิดของผู้รับสิทธิ์เอง และมีบางรายที่ผูกพร้อมเพย์กับธนาคารอื่นแต่ไม่รู้ตัว

นายจุลพันธ์ ระบุถึงกระแสข่าวแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 ที่จะมีการแจกเพียง 5,000 บาท ว่ายังไม่มีข้อสรุปใดๆ ต้องรอกลไกในการตั้งคณะกรรมการการประชุม และมีการมอบหมายงานเพื่อทำข้อสรุป และนำเสนออีกครั้ง พร้อมกับยอมรับว่าเงื่อนไขของโครงการที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจลดไปตามสัดส่วน แต่เม็ดเงินที่เติมลงไปไม่ได้หายไปไหน ยังเป็นสภาพคล่องในระบบ หมุนเวียนแต่อาจจะมีการรั่วไหลบ้าง แต่ต้องดูเรื่องความเหมาะสมในการเติมเม็ดเงินเข้าในระบบ เพื่อเป็นแรงบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ส่วนจะแจกในช่วงเทศกาลเพื่อการใช้เงินที่มากขึ้นหรือไม่นั้น ยังไม่ขอตอบเพราะต้องดูกันอีกที

อ่านข่าวเงินดิจิทัลเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook