คลังปรับเกณฑ์ Soft Loan ช่วยรายย่อยประสบภัยน้ำท่วม ให้เข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/mn/0/ud/185/929043/gsbloan.jpgคลังปรับเกณฑ์ Soft Loan ช่วยรายย่อยประสบภัยน้ำท่วม ให้เข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

    คลังปรับเกณฑ์ Soft Loan ช่วยรายย่อยประสบภัยน้ำท่วม ให้เข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

    2024-10-02T10:29:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    คลังปรับเกณฑ์ Soft Loan เปิดกว้างช่วยรายย่อยประสบภัยน้ำท่วม เข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และปรับเงื่อนไข บสย. ค้ำประกันผ่อนปรน

    นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ได้เสนอเรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสินและรับทราบโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยปี 2567

    ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 11 (โครงการ PGS 11) เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 มีมติเห็นชอบแล้ว โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

    1. จัดสรรวงเงินจำนวน 50,000 ล้านบาท ภายใต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย โดยขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการ SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ

    infogsb_0

    โดยธนาคารออมสินสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้แก่สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจในอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ที่ได้ผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี วงเงินต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน

    ภายใต้วงเงินดังกล่าวธนาคารออมสินสามารถปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ที่ได้ผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยโดยตรงภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเดียวกัน ทั้งนี้ สามารถยื่นขอสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 67

    2. โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยปี 2567 ภายใต้โครงการ PGS 11 ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยให้ได้รับสินเชื่อได้อย่างเพียงพอและช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อ

    infotcg_0

    โดย บสย. จะจ่ายค่าประกันชดเชยตลอดโครงการนี้เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิมเฉลี่ย 30% โดยรัฐบาลจะจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันแทนผู้ประกอบการใน 3 ปีแรก หลังจากนั้น บสย. คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากผู้ประกอบการ 1.25% ต่อปี ระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี รับคำขอค้ำประกันถึงวันที่ 30 เม.ย. 68

    กระทรวงการคลังเชื่อมั่นว่าการดำเนินการดังกล่าวจะสามารถให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้สามารถฟื้นฟูกิจการเพื่อกลับมาประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ภายหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายลง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะออกมาตรการที่เหมาะสมมาดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที เพื่อไม่เกิดผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างต่อไป