แนวโน้มราคาทอง 7 พฤศจิกายน 2567 ปรับตัวลง แต่บวกระยะยาว
ราคาทองปรับตัวลง (-85.05) ดอลลาร์ คิดเป็น (-3.09%) ปิดตลาดที่ระดับ 2,743 ดอลลาร์ คาดราคาทองคำยังทิศทางขาขึ้นในระยะยาว
Gold spot
- สูงสุด – 2,749 ดอลลาร์
- ต่ำสุด – 2,652 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
- สูงสุด – 44,150 บาท
- ต่ำสุด – 43,750 บาท
บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง ฮั่วเซ่งเฮง รายงาน ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลงแรงหลุด 2,700 ดอลลาร์ ลดลง 85 ดอลลาร์ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ พรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นคนที่ 47 ซึ่งนโยบายของพรรครีพับลิกันคาดเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวดีขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน เป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ พรรครีพับลิกันได้เป็นประธานาธิบดีและมีโอกาสครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรหรือ Red Sweep แต่ยังนับคะแนนไม่เสร็จ ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 3.44 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และที่สำคัญติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ คากว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ย 0.25% รวมถึงการแถลงของประธานเฟด
วิเคราะห์ราคาทอง
เกิดแท่งเทียนสีแดงยาว และราคาทองคำได้หลุดแนวรับ SMA20 ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic ยังเกิดเส้นตัดกันลงมา และยังไม่ได้เข้าสู่ Oversold คาดว่าระยะสั้นราคาทองคำอาจปรับตัวลงได้ต่อ แต่คาดว่าระยะสั้นยังยืนเหนือแนวรับ 2,635 ดอลลาร์ ทั้งนี้ราคาทองคำยังทิศทางขาขึ้นในระยะยาว
ราคาทองตลาดโลก
- แนวรับ : 2,650 และ 2,635 ดอลลาร์
- แนวต้าน : 2,670 และ 2,685 ดอลลาร์
ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อ แต่หากยืนเหนือแนวรับ 2,635-2,640 ดอลลาร์ได้ แนะนำเปิด Long position บริเวณ 2,635-2,640 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,630 ดอลลาร์ หรือเปิด Short position บริเวณ 2,685 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,690 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
- แนวรับ : 43,250 และ 43,100 บาท
- แนวต้าน : 43,450 และ 43,600 บาท
ราคาทองคำโลกปรับตัวลงแรง ทำให้ราคาทองคำแท่งปรับตัวลง แม้เงินบาทจะอ่อนค่ามาก ซึ่งคาดว่าระยะสั้นราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อ อย่างไรก็ตาม นโยบายของทรัมป์คาดส่งผลบวกต่อราคาทองคำระยะยาว ทำให้ราคาทองคำแท่งยังคงมีทิศทางขาขึ้นในระยะยาว แนะนำเข้าซื้อทองคำแท่งบริเวณแนวรับ 43,150 บาท และ 43,000 บาท