แนวโน้มราคาทอง 12 พฤศจิกายน 2567 ระยะสั้นยังมีแนวโน้มลง
ราคาทองปรับตัวลง (-65.07) ดอลลาร์ คิดเป็น (-2.42%) ปิดตลาดที่ระดับ 2,618 ดอลลาร์ คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อในระยะสั้น
Gold spot
- สูงสุด – 2,686 ดอลลาร์
- ต่ำสุด – 2,618 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
- สูงสุด – 43,450 บาท
- ต่ำสุด – 43,350 บาท
บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง ฮั่วเซ่งเฮง รายงาน ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลง ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงมีแนวโน้มลดการถือครองจากสัปดาห์ก่อน โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวลงในรอบนี้เกิดจากแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่นักลงทุนกังวลว่าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลต่อนโยบายการเงินของ Fed โดยล่าสุดตลาดคาดว่ามีโอกาสเพียง 66% ในการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งปรับตัวลงจากช่วงก่อนที่ ทรัมป์ จะคว้าชัยในการเลือกตั้งในช่วงสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่ติดตามการแถลงของประธานเฟดสาขาริชมอนด์
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อในระยะสั้น หลังจากที่หลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 2,643 $ ลงมา แต่ประเมินว่ามีโอกาสที่ราคาทองโลกอาจฟื้นตัวจากแนวรับสำคัญที่ 2,600 $ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาด้วย
ราคาทองตลาดโลก
- แนวรับ : 2,600 และ 2,585 ดอลลาร์
- แนวต้าน : 2,650 และ 2,650 ดอลลาร์
คาดว่าราคาทองคำในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ แต่มีลุ้นฟื้นตัวจากแนวรับสำคัญที่ระดับ 2,600 $ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาด้วย จึงแนะนำรอซื้อที่แนวรับดังกล่าว แต่การฟื้นตัวรอบนี้อาจเริ่มจำกัด
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
- แนวรับ : 42,700 และ 42,500 บาท
- แนวต้าน : 43,200 และ 43,400 บาท
ราคาทองคำแท่งยังมีแนวโน้มปรับตัวลง แม้ค่าเงินบาทจะกลับมาอ่อนค่าช่วยหนุน ระยะสั้นยังคาดว่ามีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 42,500-42,700 บาท ซึ่งเป็นระดับที่ราคามีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปอีกครั้ง