ทีทีบี ชูพลัง Data และ AI ก้าวข้ามขีดจำกัด ตอบโจทย์ลูกค้าระดับเฉพาะบุคคล

ทีทีบี ชูพลัง Data และ AI ก้าวข้ามขีดจำกัด ตอบโจทย์ลูกค้าระดับเฉพาะบุคคล

ทีทีบี ชูพลัง Data และ AI ก้าวข้ามขีดจำกัด ตอบโจทย์ลูกค้าระดับเฉพาะบุคคล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่ม งาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยถึงแนวทางการใช้ Data และ AI ในการพลิกโฉมการให้บริการของธนาคารว่า “ทีทีบี ขับเคลื่อนองค์กรด้วยการนำ Data มาวิเคราะห์ และให้ความสำคัญกับการเข้าใจลูกค้าเชิงลึก เพื่อให้ทราบพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงที่จะช่วยให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยการยกระดับการบริการและสร้างประสบการณ์ทางการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละบุคคลอย่างเฉพาะเจาะจงผ่าน Personalized AI Engine นอกจากนี้ ธนาคารได้ช่วยลูกค้าลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะการโอนเงินเข้าบัญชีที่น่าสงสัยว่าอาจเป็น “มิจฉาชีพ” ที่หลอกลวงทางการเงินทุกรูปแบบ พร้อมยกระดับความปลอดภัยแบบเฉพาะบุคคล ด้วยระบบแจ้งเตือนบนหน้าแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง ttb touch เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการให้มีทั้งคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด”

มอบประสบการณ์ทางการเงินในระดับเฉพาะบุคคลด้วย Segment of One

ทีทีบีมอบบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าในระดับเฉพาะบุคคล บนแอป ttb touch ด้วยแนวคิด Humanized Digital Banking ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าได้อย่างรอบด้าน โดยพิจารณาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม รวมไปถึงการแจ้งเตือน และแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าผ่าน Personalized Message มากกว่า 4 ล้านราย ผ่าน 18 ล้านข้อความต่อวันบนแอป ttb touch ซึ่งช่วยสร้างความประทับใจและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ส่งผลให้ยอด Digital Sales ผ่านการทำ Personalized Card เติบโตถึง 2 เท่า และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าในช่องทางดิจิทัลอย่างเห็นได้ชัด

AI ป้องกันการทุจริต ยกระดับความปลอดภัยให้ลูกค้าผ่าน “4V”

ในยุคที่ความปลอดภัยทางการเงินมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ทีทีบีได้พัฒนาระบบ AI เพื่อป้องกันการทุจริตทางการเงิน โดยนำ “4V” ได้แก่ Volume, Variety, Velocity และ Veracity มาใช้ในการตรวจจับรูปแบบธุรกรรมที่มีความเสี่ยง ด้วยวิธีนี้ทำให้ธนาคารสามารถลดอัตราบัญชีม้าเกิดใหม่ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทีทีบียังได้มีการแจ้งเตือนลูกค้าแอปttb touch เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางการเงินในระดับเฉพาะบุคคล โดยในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้วิเคราะห์ข้อมูลและส่ง Personalized Card แจ้งเตือนไปยังลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่มีความเสี่ยง ซึ่งพบว่ามีลูกค้าให้การตอบรับและเข้าไปปิดฟังก์ชันการใช้จ่ายร้านค้าออนไลน์และการใช้จ่ายโฆษณาบนบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้งานถึง 43,000 ราย อีกทั้งยังได้ปรับลดวงเงินการทำธุรกรรมที่ลูกค้าตั้งค่าวงเงินไว้เกินความจำเป็นไปกว่า 25,000 ราย

ขับเคลื่อนด้วย Gen AI และ databricks เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ

ทีทีบีนำเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และ Generative AI เชิงสร้างสรรค์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของพนักงานในช่องทาง ttb contact center ที่ทำให้สามารถตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นกว่าเท่าตัว พร้อมทั้งยกระดับขีดความสามารถด้าน Data and AI โดยใช้แพลตฟอร์มสุดล้ำอย่าง databricks ที่ Gartner ได้จัดลำดับให้เป็นผู้นำด้าน Data and AI ในการประมวลผลข้อมูล เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน อาทิ ความรวดเร็วในการใช้และประมวลผลข้อมูลที่ให้ความสามารถในการใช้ประโยชน์ได้เรียลไทม์ และรองรับปริมาณการประมวลผลข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ตลอดจนเจาะลึกเชิงเทคนิคทำให้ส่ง Personalized Message หาลูกค้าได้จำนวนมาก ถูกจังหวะ ถูกเวลา เรียลไทม์ และครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้วย Data และ AI

ด้วยพื้นฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง ทีทีบีได้นำดิจิทัลมาดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มในทุกช่วงชีวิตและ AI เชิงสร้างสรรค์มาขับเคลื่อนการเติบโตและการดำเนินงาน เสริมศักยภาพพนักงานในการนำข้อมูลมาใช้ เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven Culture) ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการเติบโตขององค์กร ช่วยให้ทีทีบีก้าวสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลที่ล้ำสมัยในตลาดการเงินของไทย

“ทีทีบีมุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ Transform องค์กรในทุกมิติ โดยนำ Data และ AI มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อมอบประสบการณ์ทางการเงินเฉพาะบุคคล วิเคราะห์บัญชีที่มีความเสี่ยงจะเป็นบัญชีม้าเพื่อแจ้งเตือนภัยทางการเงินของลูกค้าให้มีความปลอดภัย ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีข้อมูลที่ครบถ้วน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีนี้ทำให้ลูกค้าของเราสามารถมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ และเสริมสร้างอนาคตทางการเงินที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง” นายนริศ กล่าวสรุป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook