แนวโน้มราคาทอง 19 พฤศจิกายน 2567 ลุ้นทองฟื้นตัวต่อ

แนวโน้มราคาทอง 19 พฤศจิกายน 2567 ลุ้นทองฟื้นตัวต่อ

แนวโน้มราคาทอง 19 พฤศจิกายน 2567 ลุ้นทองฟื้นตัวต่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ราคาทองปรับตัวขึ้น +48.73 ดอลลาร์ คิดเป็น +1.86% ปิดตลาดที่ระดับ 2,611 ดอลลาร์ ลุ้นทองฟื้นตัวต่อ

Gold spot

  • สูงสุด – 2,615 ดอลลาร์
  • ต่ำสุด – 2,562 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง

  • สูงสุด – 42,750 บาท
  • ต่ำสุด – 42,550 บาท

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง ฮั่วเซ่งเฮง รายงาน ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคืนวานได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ปธน. โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้มีการอนุมัติไฟเขียวให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems (ATACMS) ของสหรัฐฯ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้ จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาด กลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียอีกครั้ง

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการเผยจำนวนการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนต.ค.รวมถึงการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนต.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะประกาศออกมาไม่ต่างจากเดิม

วิเคราะห์ราคาทอง

ราคาทองโลกที่เร่งตัวขึ้นมากำลังขึ้นทดสอบระดับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2,620 $ ซึ่งประเมินว่าราคามีโอกาสย่อตัวสั้นๆ ก่อนจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านสำคัญซึ่งราคาน่าจะผ่านขึ้นไปได้ยากที่ระดับ 2,642 $ หากยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ

ราคาทองตลาดโลก

  • แนวรับ : 2,610 และ 2,590 ดอลลาร์
  • แนวต้าน : 2,620 และ 2,640 ดอลลาร์

ราคาทองโลกสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากแนวรับหลังลงทดสอบแนวรับที่ 2,535 $ แม้จะมีแนวต้านย่อยอยู่ที่ระดับ 2,620 $ แต่ยังประเมินว่าราคามีโอกาสฟื้นตัวถึงระดับ 2,640 $ ซึ่งราคาน่าจะผ่านต้านดังกล่าวได้ยาก แนะนำเปิดสถานะซื้อบริเวณ 2,600- 2,610 $ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 2,640 $ และตัดขาดทุนหลุดหลุดแนวรับที่ 2,590 $

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

  • แนวรับ : 42,800 และ 42,700 บาท
  • แนวต้าน : 43,250 และ 43,500 บาท

ประเมินแนวโน้มราคาทองแท่งในประเทศอาจบวกแรงน้อยกว่าทองโลก เนื่องจากปัจจัยทางด้านค่าเงินบาทอาจกลับมาแข็งค่ากดดันราคาทองในประเทศ แต่ราคาในช่วงเช้านี้น่าจะเปิดมาบริเวณ 42,800-42,900 บาท ซึ่งยังเป็นจุดที่น่าสะสมเพิ่มเข้าพอร์ต สำหรับการลงทุนระยะสั้นอาจมองเป้าที่ 43,500 บาท เป็นเป้าหมายทำกำไร และตัดขาดทุนหากหลุดระดับ 42,350 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook