ต๊อด ปนพงศ์ ไขแสง ส่ง "W Clinic Plus" ชิงเม็ดเงินตลาดเสริมความงาม 70,000 ล้านบาท

ต๊อด ปนพงศ์ ไขแสง ส่ง "W Clinic Plus" ชิงเม็ดเงินตลาดเสริมความงาม 70,000 ล้านบาท

ต๊อด ปนพงศ์ ไขแสง  ส่ง "W Clinic Plus" ชิงเม็ดเงินตลาดเสริมความงาม 70,000 ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การดูแลตัวเองให้ดูดี ถือเป็น "การลงทุน" รูปแบบหนึ่งที่ Warren Buffett นักลงทุนอันดับ 1 ของโลก เคยกล่าวไว้ว่า "Investing in yourself is the best thing you can do" การลงทุนในตัวเองคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะทำได้ เพราะนั่้นจะเป็นที่จะทำให้เราได้รับโอกาส และก้าวไปสู่ความสำเร็จทั้งด้านธุรกิจ การเงิน การเงิน รวมถึงเรื่องความรัก

ซึ่งการดูแลตัวเองก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย จนไปสู่การทำหัตถการ และศัลยกรรมที่ได้รับความนิยม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนได้จากตัวเลขประเมินมูลค่าธุรกิจศัลยกรรม และเสริมความงาม จากศูนย์วิจัยกสิกรไทยเมื่อปี 2566 ที่คาดว่าอยู่ที่ 71,000-72,000 ล้านบาท และคาดว่าอนาคตยังเติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดศัลยกรรม-เสริมความงาม นอกจากจะเป็นกลุ่มผู้หญิง Gen Y และ LGBTQIA+ ยังพบว่าผู้ชาย และ Gen Z ก็หันมาใช้บริการเสริมความงาม-เสริมหล่ออีกด้วย ทำให้ฐานผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

ต๊อด ปนพงศ์ ไขแสง นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ผู้มีหมวกอีกใบเป็น CEO and Founder คลินิกเสริมความงาม "W Clinic Plus" เป็นหนึ่งนักธุรกิจที่มองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจศัลยกรรม และเสริมความงามในไทย จึงได้เปิดคลินิกเสริมความงาม และขยายสาขาจนปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ต๊อด ปนพงศ์ ได้เล่าให้กับทีมข่าว Sanook Money ว่าจุดเริ่มต้นที่เปิดคลินิก W Clinic Plus มาจากความสนใจในเทคโนโลยี และนวัตกรรมเสริมความงามที่จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้น โดยเริ่มศึกษาเทคโนโลยีเสริมความงามที่มีงานวิจัยรองรับการรักษาอย่างจริงจัง และทดลองกับตัวเองเพื่อดูผลลัพธ์ก่อนที่จะลงทุนนำมาให้บริการลูกค้า จนตัดสินใจลงทุนไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท เปิดคลินิกแห่งแรกที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี 2559 ด้วยวัย 25 ปีเท่านั้น

c72f0269-c6a7-43ed-a8fb-eb2b6ต๊อด ปนพงศ์ ไขแสง CEO & Founder W Clinic Plus

"เวลาเลือกเทคโนโลยี นวัตกรรมเสริมความงาม จะเลือกที่ผลลัพธ์จากการรักษาที่มีงานวิจัยรองรับ ไม่ได้ดูตามกระแส หรือตามเทรนด์ แต่ต้องดูสิ่งที่เราจะได้รับด้วย" ต๊อด ปนพงศ์ กล่าว

ต๊อด ปนพงศ์ เล่าว่า เทคโนโลยีที่นำมาให้บริการลูกค้ามีหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มทรีตเมนต์, กลุ่มฉีด ไปจนถึงกลุ่มเลเซอร์ เป็นต้น ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย โดยนวัตกรรมส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศเกาหลี เนื่องจากประเทศเกาหลีขึ้นชื่อเรื่องของงานผิว งาน Glass Skin อีกทั้งมีผลงานวิจัยรองรับว่าให้ผลการรักษาที่คุ้มค่า และเป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่ผู้บริโภคจับต้องได้ในราคาที่เหมาะสม สำหรับเทคโนโลยีที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ได้แก่

Picosecond Laser เป็นเครื่องที่ใช้พลังงานเลเซอร์ความถี่สูงที่มีความเร็วระดับล้านล้านวินาที ช่วยทำให้เม็ดสีผิวเกิดการสลายตัวออกมาเป็นอนุภาคเล็กทำให้ร่างกายสามารถนำไปย่อยสลายต่อง่ายขึ้น เมื่อเม็ดสีถูกสลาย และย่อยหมดทำให้สีผิวดูจางลงจากภายนอก และค่อยๆ เลือนหายไป ใช้สำหรับรักษาผิวหน้า ฝ้า รอยดำ และใช้กระชับรูขุมขน

Vital Injector เป็นนวัตกรรมที่ช่วยผลักสารอาหารเข้าสู่ผิวได้แม่นยำ โดยหัวยิง 1 หัว จะมีเข็มเล็กๆ อยู่ด้านในทั้งหมด 12 เข็ม ช่วยกระจายยาได้ทั่วทั้งบริเวณในปริมาณเท่ากันทุกจุด โดยตัวเครื่องมีระบบสุญญากาศ ทำให้เลือดไม่ไหลย้อนกลับ ใช้สำหรับการรักษาสิว, ฝ้า, กระ, หลุมสิว อีกทั้งยังสามารถใช้ยิงรักษาผมเพื่อช่วยกระตุ้นรากผมให้แข็งแรงได้อีกด้วย

HIFU หรือเครื่อง High Intensity Focus Ultrasound เป็นเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง ที่ใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นอัลตราซาวด์ลงลึกสู่ชั้นผิวหนัง พลังงานความร้อนจะกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ใช้สำหรับการรักษาผิวหน้า-ใบหน้าหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับผิวหน้าให้เฟิร์มขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น

ส่วนกลุ่มฉีดทั้งฟิลเลอร์, โบท็อก รวมถึงกลุ่มตัวยา และวิตามินที่จะนำมาให้บริการลูกค้า มาจากหลายประเทศ ทั้งสหรัฐ, เกาหลี รวมถึงสวีเดน อยู่ผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกจะใช้บริการตัวไหน เพราะปัจจุบันผู้บริโภคศึกษาหาข้อมูลจาก Internet กันมากขึ้น ดังนั้น การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการรักษา และความรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

wclinic

ต๊อด ปนพงศ์ เล่าว่า ฐานลูกค้าของคลินิก W Clinic Plus กว่า 70% เป็นกลุ่มนักศึกษาจนถึงวัยเริ่มทำงาน อีก 30% เป็นกลุ่มวัยทำงานจนถึงกลุ่มคนมีอายุ ส่วนรูปแบบการทำการตลาดจะคิดค่าบริการเป็นรายครั้ง มากกว่าการทำเป็นแพ็คเกจ หรือ Member เนื่องจากความกังวลผิวหน้า และผิวพรรณของลูกค้าในแต่ละคนแต่ละวันที่เข้ามาใช้บริการไม่เหมือนกัน ที่สำคัญคลินิกจะมีแพทย์ผู้เชียวชาญ พยาบาล และผู้ช่วยพยาบาล ประจำคลินิกรวมสาขาละ 5 คน คอยให้คำปรึกษา และประเมินอาการของคนไข้ต่างๆ และยังเป็นผู้ทำการรักษาคนไข้ด้วยตนเองใน กรณีที่ต้องใช้ความชำนาญในการรักษา เช่น การฉีด การปรับกรอบหน้า แพทย์จะเป็นผู้ทำด้วยตนเองทั้งหมด

ปัจจุบัน W Clinic Plus มีทั้งหมด 5 สาขา ได้แก่ สาขาอุบลราชธานี, มุกดาหาร, รัชโยธิน, เอกมัย และสามย่าน โดยแต่ละสาขาใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 5-7 ล้านบาท และคาดว่าในปลายปี 2567 จะเปิดอีก 1 สาขาที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมตั้งเป้ารายได้ทั้งปีรวมกันไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook