เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ธ.ก.ส. จะโอนเงินเมื่อไหร่

เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ครัวเรือนละ 10,000 บาท ธ.ก.ส. โอนเงินเมื่อไหร่ เช็กที่นี่

จากกรณีที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอโครงการอุดหนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2567-2568 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรให้ดำรงชีพได้ มีกลุ่มเป้าหมาย 4.6 ล้านครัวเรือน จ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินคนละ 10 ไร่ และครัวเรือนไม่เกิน 10,000 บาท

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุ เรื่องดังกล่าวผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. เรียบร้อยแล้ว ขอประกาศให้ชาวนาทั่วประเทศรับทราบพร้อมกัน คาดจ่ายเงินได้ภายในปีนี้แน่นอน

โดยทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินไร่ละ 1,000 บาทให้ กำหนดแบ่งการโอนเป็นรอบต่อไป

ธ.ก.ส. โอนเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เมื่อไหร่?

• ธ.ก.ส. ได้ชี้แจงกับเกษตรกรผ่านทุกช่องทางว่า ขอให้รอข้อมูล และรายละเอียดเพิ่มเติม ผ่านการประชาสัมพันธ์จากทางรัฐบาล พร้อมแนะนำให้ติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่เว็บไซต์ www.baac.or.th, Line ID:@baacfamily, Facebook: baacthailand

ระยะเวลาดำเนินการ

• ระยะเวลาโครงการ 3 ธันวาคม 2567 ถึง 30 กันยายน 2568 ระยะเวลาจ่ายเงินสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2568

กลุ่มเป้าหมาย

• เกาตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 กับกรมส่งเสริมการเกษตรจำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน

วัตถุประสงค์

• เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตข้าวมีความคุ้มค่าและเพิ่มผลกำไรต่อไร่สูงขึ้น
• เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาประสิทธิภาพ และคุณภาพในการผลิตข้าว
• พัฒนากระบวนการผลิตข้าวที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกร เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
• สนับสนุนการพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันในการปลูกข้าวของเกษตรกรไทย

ช่องทางเช็คเงินไร่ละ 1,000 ปี 67/68

• แอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง
• เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com
• สมัครใช้บริการ BAAC Connect จะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family

วิธีเช็กสถานะทะเบียนเกษตรกร

1. เข้าไปที่ทะเบียนเกษตรกรออนไลน์ ผ่านระบบ e-Form เว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th/checkFarmer
2. กรอกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
3. กรอกรหัสหลังบัตรประชาชน
4. หมายเลขหลังบัตรประจำตัวประชาชน 12 หลัก (พิมพ์ติดกันไม่ต้องใส่ "-") เช่น JT1234567890 หลักที่ 1-2 เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ และหลักที่ 3-12 เป็นตัวเลข
5. คลิกตรวจสอบได้เลย