ตามไปชิมของกิ๋นลำชนเผ่า ในงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11
โค้งสุดท้ายแล้วสำหรับเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 26 มกราคม 2568 นี้เป็นวันสุดท้าย ขอบอกเลยว่าใครที่ยังไม่ได้มาสัมผัสอากาศหนาวบนดอยตุง และชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวพร้อมแชะภาพกับจุดไฮไลต์ 11 wonders อีกทั้งชิมอาหารชนเผ่าที่หาทานได้ยาก ต้องรีบแพ็คกระเป๋าวางแผนเดินทางกันได้เลย
หนึ่งปีมีครั้งเดียวที่จะมีโอกาสได้ลิ้มรสชาติของอาหารชนเผ่าที่หลาก หลายชนิด ที่รวบรวมมาไว้ในในงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ไปดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจและควรลิ้มลองเป็นประสบการณ์บ้าง
ข้าวปุก คือข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ นำมาตำให้เนื้อข้าวละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วโรยด้วยงาขี้ม้อน ซึ่งงาขี้ม้อนถือเป็นธัญพืชเมล็ดเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า3 หน้าตาคล้ายกับมูลของตัวหม่อนหรือม้อน ข้าวปุกเป็นขนมที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมของชาวเหนือและชนชาติพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะในฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่นำข้าวปุกมาเฉลิมฉลอง ขนมข้าวปุกงาอาจจะดูธรรมดา แต่สำหรับพี่น้องชาวชาติพันธุ์ ข้าวปุกนั้นเป็นมากกว่าของกินเล่น แต่มีความหมายอีกนัยหนึ่งคือฤดูกาลแห่งการเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์หลังเก็บเกี่ยวพืชผลผลิต และรำลึกแสดงความขอบคุณบรรพบุรุษ เช่น พี่น้องอาข่า หมู่บ้านอาข่าป่ากล้วย บนดอยตุง จังหวัดเชียงรายที่ยังยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมเอาไว้อย่างเคร่งครัด ในงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุงจะมีทั้งข้าวปุกแบบปิ้งและทอด สามารถเลือกทานได้ตามความชอบ
ยำเส้นบุกไทใหญ่ ยำก๋วยเตี๋ยวไทใหญ่ และ ยำหมี่เหลืองไทใหญ่ เมนูนี้แซบและอร่อยมาก มีใยอาหารสูงพลังงานต่ำ รสชาติจัดจ้าน อิ่มท้องแน่นอน
ไข่ป่าม “ป่าม” เป็นภาษาพื้นเมืองแปลว่า ปิ้ง เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ ที่ปรุงไข่ให้สุกด้วยวิธีป่าม โดยเทไข่ลงบนใบตอง ตั้งไฟให้ไข่สุก กลิ่นหอมมาก รับประทานร้อนๆ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น รับรองว่าฟินสุดๆ
หมูพวงปิ้ง น้ำพริกอาข่า เมนูนี้ดูธรรมดาทั่วไป แต่รสชาติและกลิ่นหอมฟุ้งทั่วดอยตุงนั้น ทำเอาทุกคนต้องหยุดซื้อและต้องลิ้มรสชาติ โดยจะนำเอาหมูพวงไปทอดในน้ำมันให้สุกเหลือง หลังจากนั้นจะนำมาปิ้งบนเตาให้สะเด็ดน้ำมัน กลิ่นจะหอม น่าทานมาก ทานพร้อมกับข้าวเหนียวร้อนๆ น้ำพริกอาข่าจัดจ้าน พร้อมกับยำผักอาข่า ที่ใช้ผักออแกนิกมายำใส่งาและพริกป่น ทำให้รสชาติอร่อยกลมกล่อมจัดจ้าน อิ่มพุงมีแรงเดินทั้งวันอย่างแน่นอน
ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยว ข้าวซอยไก่ ถือเป็นอีกเมนูซิกเนเจอร์ของเชียงราย คือน้ำเงี้ยวหมูที่รสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พริกแกงคั่วต้นตำรับจากชาวเชียงราย คั่วกับหมูสับจนหอม ทำให้น้ำซุปกลมกล่อม มีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ จากมะเขือเทศ และที่ขาดไมได้คือดอกงิ้ว ถ้าไม่มีดอกงิ้วจะไม่ใช่น้ำเงี้ยวเจียงฮาย ทานคู่กับกะหล่ำปลีสดซอยสไลส์บางๆ และถั่วงอก พร้อมด้วยผักกาดดอง ส่วนเมนูข้าวซอยไก่ก็อร่อยไม่แพ้กัน ความนัวความกลมกล่อมของน้ำพริก หอมกรุ่นกะทิ น่องไก่ตุ๋นเปื่อยๆ น้ำซุปแทรกซึมเข้าถึงเนื้อ ทานคู่กับหอมแดง ผักกาดดอง โรยพริกป่นคั่วน้ำมันนิดหน่อย จะเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเมนูแนะนำคือ “พิซซ่าหน้าหมูดำ” จากการส่งเสริมอาชีพในพื้นที่ เนื้อนุ่ม เข้ากันดีกับซอสบาร์บีคิวเข้มข้นถึงเครื่องถึงใจ เป็นการยกเตาดินขึ้นมาอบพิซซ่ากันถึงดอยตุงเลยทีเดียว เป็นอีกเมนูที่ควรต้องมาลอง
ครัวตำหนัก เมนูพิเศษกับอาหารชนเผ่าแบบฟิวชัน
ชุดอาหารชนเผ่า อร่อยไปกับหมูดำดอยตุงย่างทานคู่กับน้ำพริก มะเขือเทศรสชาติจัดจ้าน และน้ำพริกถั่วเน่ามะแขว่นรสเด็ด เสิร์ฟพร้อมกับข้าวอุ๊ ข้าวเหนียวดอยหอม ๆ เสิร์ฟมาร้อน ๆ
อกไก่ย่างซอสสะเบี๊ยะ เมนูใหม่ที่ประยุกต์จากอาหารของชาวอาข่า นำชาชูอกไก่นุ่มมาเสิร์ฟคู่กับซอสรากชูที่ถูกปรุงรสมาอย่างพิถีพิถัน ทานคู่กับฟักทองญี่ปุ่นและผักกูดที่ชาวบ้านปลูกเองบนดอยตุง
บุกแห้งหม่าล่าชาชู เซต เส้นบุกคลุกซอสหม่าล่ารสชาติเข้มข้น ทานคู่กับหมูดำชาชู เสิร์ฟพร้อมกับซุป
ข้าวอิโต หมูดำย่างจิ้มแจ่ว เซต ข้าวอิโตดอยตุง ทานคู่กับหมูดำย่างจิ้มแจ่ว เสิร์ฟพร้อมกับซุป
ไส้อั่วทอดสูตรครัวตำหนัก ทานคู่กับซอสขิงกระเทียม หอม เข้มข้น
ครอฟเฟิลร้อน ๆ ท็อปด้วยวิปปิ้งครีมเสิร์ฟพร้อมผลไม้สด ๆ จากดอยตุง
เหลืออีก 6 วันสุดท้ายแล้ว สำหรับใครที่ยังลังเลไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนช่วงหน้าหนาว ดอยตุงถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าเที่ยวในช่วงนี้ มาเที่ยวชมสวนดอกไม้เมืองหนาว สัมผัสอากาศหนาว พร้อมชิมรสชาติอาหารชนเผ่าที่หาทานได้ยาก สามารถวางแผนมาเที่ยวเชียงรายได้ โดยงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 11 นี้จัดขึ้นถึงวันที่ 26 มกราคม 2568 เปิดให้บริการทุก วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (11,12,18,19,25,26 มกราคม) ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น. ณ โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย