ทองคำมีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับการลงทุน
รู้ไหม ทองคำมีกี่แบบ ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการจำแนก และแบบไหนเหมาะกับการลงทุน
เมื่อเอ่ยถึง ทองคำ เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกถึง ทองคำ หรือทองรูปพรรณ ใช่ไหม แต่ทราบหรือไม่ ทองคำ สามารถแบ่งได้อีกหลายประเภท โดยใช้หลักเกณฑ์จำแนกที่แตกต่างกันออกไป อยากรู้ไหมทองคำมีกี่แบบ Sanook Money มีข้อมูลดีๆ จากฮั่วเซ่งเฮง มาฝากกัน
ทองคำในประเภทต่างๆ ที่อาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
การเข้าใจว่าทองมีกี่แบบ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบคอบ อีกทั้งยังช่วยให้เลือกประเภททองคำได้ตรงกับการใช้งานที่ต้องการ โดยสามารถแบ่งได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้
1. การแบ่งประเภททองคำตามความบริสุทธิ์
สามารถแบ่งทองคำตามความบริสุทธิ์ได้ ดังนี้
- ทองคำบริสุทธิ์ (24K) ซึ่งเป็นทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์สูงสุด 99.99% หรือที่เรียกกันว่า 24 กะรัต โดยไม่มีส่วนผสมของโลหะชนิดอื่น มักถูกนำมาใช้ในการลงทุน เช่น ทองคำแท่ง เนื่องจากมีความบริสุทธิ์สูงและให้มูลค่าทองคำเต็มที่ แต่ทองคำบริสุทธิ์จะมีความอ่อนนุ่ม จึงไม่เหมาะกับการนำมาทำเป็นเครื่องประดับ
- ทองคำผสม (18K, 14K, 9K) เป็นทองคำที่มีการผสมโลหะอื่น เช่น เงิน ทองแดง หรือแพลเลเดียม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานต่อการใช้งาน โดยนิยมใช้ในงานจิวเวลรี่เพราะมีสีสันที่หลากหลายและสามารถออกแบบลวดลายได้สวยงาม
2. ทองคำผสมและการแบ่งประเภทตามสีสัน
การผสมโลหะชนิดต่างๆ จะทำให้ทองคำมีสีสันที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปสามารถแบ่งตามสีที่พบได้บ่อย เช่น
- ทองคำเหลือง (Yellow Gold) เป็นสีดั้งเดิมที่พบมากที่สุด มีส่วนผสมของทองคำบริสุทธิ์ เงิน และทองแดง โดยเป็นสีที่ดูมีความคลาสสิก จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในวงการเครื่องประดับ
- ทองคำขาว (White Gold) มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Platinum มีความบริสุทธิ์เป็นหน่วยกะรัต โดยเป็นการผสมระหว่างทองคำและโลหะสีขาว เช่น แพลเลเดียม หรือเงิน เพื่อให้ได้สีขาวที่ดูหรูหรา มักใช้ในเครื่องประดับที่มีความทันสมัยลักชัวรี โดยนิยมเคลือบผิวด้วยโรเดียมเพื่อเพิ่มความสว่างและทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน
- ทองคำชมพู (Rose Gold): เกิดจากการผสมระหว่างทองคำกับทองแดง ด้วยความสวยงามของสีชมพู จึงเป็นสียอดนิยมที่มักนำมาทำเป็นเครื่องประดับ
- ทองคำเขียว (Green Gold) เกิดจากการผสมระหว่างทองคำและเงิน จนได้ออกมาเป็นสีเขียวที่มีความเป็นเอกลักษณ์ แต่ไม่ค่อยนิยมนักเนื่องจากหาได้ยากและมักใช้ในงานออกแบบที่เฉพาะเจาะจง
- ทองคำดำ (Black Gold) ทองคำดำสร้างขึ้นโดยการเคลือบหรือผสมกับโลหะชนิดอื่น เช่น โรเดียมสีดำ หรือการใช้เทคโนโลยีทางไฟฟ้าให้สีดำติดกับทองคำ ทองคำสีดำมักถูกนำมาใช้ในงานจิวเวลรี่ที่เน้นความโมเดิร์นและเรียบหรู
- ทองคำเทา (Grey Gold) เป็นการผสมโลหะที่ทำให้เกิดสีเทา เช่น แมงกานีสและเงิน ทองคำเทามักใช้ในงานจิวเวลรี่ที่ต้องการสีสันที่แปลกใหม่
นอกจากนี้ยังมีทองประเภทอื่น ๆ เช่น ทองเหลือง (Brass) ซึ่งเป็นการผสมระหว่างทองแดงและสังกะสี หรือทองสัมฤทธิ์ (Bronze) ที่ผสมระหว่างทองแดงและดีบุก โดยแม้จะมีชื่อว่าทองแต่กลับไม่มีส่วนผสมของทองคำ นิยมนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทาน แต่จะไม่มีค่าในการลงทุน
3. การแบ่งประเภททองคำตามการใช้งาน
แต่นอกจากการแบ่งตามความบริสุทธิ์และสีสันแล้ว ทองคำยังสามารถแบ่งได้ตามการใช้งาน ดังนี้
- ทองคำแท่ง เป็นทองคำที่ถูกผลิตในรูปแบบแผ่น หรือแท่ง ไม่มีการขึ้นลวดลายและความซับซ้อน นิยมใช้ในการสะสมเพื่อลงทุน เนื่องจากมีมูลค่าที่ตรงกับราคาตลาดทองคำโดยไม่ต้องเสียค่ากำเหน็จ
- ทองรูปพรรณ เป็นทองคำที่ถูกนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ กำไล แหวน หรือจี้ ทองรูปพรรณมีลวดลายที่ซับซ้อน ทำให้ต้องเสียค่ากำเหน็จเพิ่มเติมและมักถูกนำมาใช้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ
- ทองคำชุบ เป็นทองคำที่ถูกเคลือบ หรือชุบให้มีความคล้ายกับทองคำแท้ แต่มักมีราคาถูกกว่าทองคำบริสุทธิ์ เนื่องจากมีเพียงชั้นบาง ๆ ของทองเคลือบอยู่ มักนำมาใช้ในเครื่องประดับแฟชั่น
ทั้งนี้ การได้รู้ว่าทองมีกี่แบบจะช่วยให้เข้าใจและตัดสินใจเลือกซื้อทองคำที่เหมาะสมกับความต้องการและวัตถุประสงค์ได้อย่างคุ้มค่า