นัก TikToker ต้องยื่นภาษีอย่างไรถึงจะถูกต้อง

นัก TikToker ต้องยื่นภาษีอย่างไรถึงจะถูกต้อง

นัก TikToker ต้องยื่นภาษีอย่างไรถึงจะถูกต้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นัก TikToker ต้องรู้ เมื่อมีรายได้เข้ามาหลายช่องทาง ต้องยื่นภาษี TikTok ให้ถูกต้อง เช็กเงื่อนไขด่วน

ก่อนหน้านี้ เราได้ทราบกันไปแล้วว่า TikToker สามารถสร้างรายได้จากหลายช่องทาง ซึ่งรายได้ที่ได้รับจากทุกช่องทางจะต้องถูกนำมายื่นภาษีแยกตามประเภทตามที่กฎหมายกำหนด สามารถแยกตามประเภทของรายได้ที่ได้รับดังนี้

นัก TikToker เสีย ภาษี TikTok อย่างไรบ้าง

ข้อมูลจากเว็บไซต์ inflowaccount รายงานว่า นัก TikToker สามารถสร้างรายได้จากหลายช่องทาง โดยจะต้องนำรายได้ที่ได้รับทุกช่องทางมายื่นภาษีแยกตามประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสามารถแยกตามประเภทของรายได้ที่ได้รับดังนี้

  • นัก TikToker ต้องทราบว่ารายได้ที่ได้รับเกิดจากการทำอะไรบ้าง เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่าจ้างทั่วไป แบบนี้เป็นต้น ซึ่งรายได้เหล่านี้จะจัดเป็นเงินได้ประเภทที่ 2 [เงินได้ 40(2)] สามารถหักแบบเหมา 50% แต่เมื่อรวมหักค่าใช้จ่ายจากเงินประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 แล้ว ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  • การขายของออนไลน์ ได้ของขวัญจากการไลฟ์สด ได้ของขวัญจากการทำคลิปวิดีโอ ขายสินค้าแบรนด์ตัวเอง TikTok Shop จัดเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 [เงินได้ 40(8)] หักแบบเหมา 60% หรือหักตามจริง (ยกเว้นกรณีการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยทางอื่นที่ไม่ได้มุ่งหากำไร)​
Advertisement

นัก TikToker เสียภาษี TikTok ตามเงื่อนไขใดบ้าง

นัก TikToker จะเสียภาษีในนามบุคคลธรรมดา สิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลังจากมีรายได้เข้ามา คือ ต้องประเมินเบื้องต้นก่อนว่ารายได้ที่ได้รับมามากน้อยแค่ไหน

สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ที่มีรายได้รวมทั้งหมดทุกช่องทางเกิน 120,000 บาท และถ้ามีเงินได้สุทธิ 150,000 บาทขึ้นไป จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยแบบฟอร์มที่ใช้ยื่นแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

  • ภ.ง.ด.91 ผู้มีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว
  • ภ.ง.ด.90 สำหรับผู้มีรายได้อื่นๆ ที่นอกเหนือจากเงินเดือน

การยื่นภาษีให้แยกจากรายได้ที่ได้รับตามประเภทเงินได้พึงประเมิน จากนั้นนำรายได้หักลบด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน จึงนำมาคูณกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภาษีก้าวหน้า) ซึ่ง TikToker มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีประจำปีทุกปี

เมื่อใดก็ตามที่ TikToker มีรายได้เข้ามาจำนวนมาก จนไม่สามารถจัดเก็บเอกสารได้ครบถ้วน ตรวจสอบรายได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย และอาจโดนตรวจสอบย้อนหลังจากกรมสรรพากรด้วย

ดังนั้น ควรพิจารณาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล พร้อมใช้บริการรับทำบัญชีตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดความผิดพลาดจากการทำบัญชีจำนวนมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้